(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")

ตลาดฉัตรไชยตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมระหว่างซอย 70 และ 72 โดยเราจะเห็นอาคารชั้นเดียวมีหลังคาโค้งครึ่งวงกลมทั้งหมดเจ็ดหลังคาเรียงติดกัน หลังคารูปทรงนี้สร้างขึ้นเพื่อแทนสัญลักษณ์ที่ว่า ตลาดนี้ก่อตั้งในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 และด้วยเหตุนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า“ตลาดเจ็ดโค้ง”นั่นเอง

ถ้าเดินเข้าออกตลาดฉัตรไชยจากริมถนนเพชรเกษมด้านหลังคาโค้งนี้เลย เราสามารถเดินเข้าออกจากหน้าอาคารเจ็ดโค้ง(หรือตลาดหนึ่ง)ได้สามช่องทาง และยังเข้าออกตลาดบริเวณตรอกข้างอาคารเจ็ดโค้งทั้งซ้ายหรือขวาก็ได้ (ทั้งนี้จากปากซอย 70 และ 72 เข้าไป ก็สามารถไปถึงโซนด้านหลังตลาดได้ด้วย)

เริ่มที่อาคารเจ็ดโค้งก่อน ในอาคารนี้ แผงปูนจะยกพื้นสูง ผู้เช่าส่วนใหญ่จึงค้าขายบนแผงปูนไปเลย ซึ่งในอดีตอาคารนี้มีของแห้งจำหน่ายเยอะ บางคนจึงเรียกติดปากว่า“ตลาดของแห้ง” แต่ปัจจุบันสินค้าได้กระจายประเภทไปแล้ว ที่เยอะสุดคือ งานบริการ ที่เหลือก็มีดอกไม้ ของเล่นเด็ก เสื้อผ้าสตรี เครื่องดื่ม และของแห้ง

ถัดเข้าไปคืออาคารแผงปูนที่อยู่ด้านหลังอาคารเจ็ดโค้ง บางคนก็เรียกอาคารนี้ว่า“ตลาดสอง”หรือ“ตลาดปลา” เราสามารถเดินเชื่อมระหว่างสองอาคารนี้ได้เพราะด้านหลังอาคารเจ็ดโค้งมีทางเข้าออกสามช่อง และช่องทั้งหมดสร้างตรงกับทางเข้าออกอีกสามช่องของด้านหน้าอาคารสองพอดี แผงปูนในอาคารนี้มีทั้งแบบยกพื้นขึ้นไปนั่งขายบนแผงกับยืนขายที่หน้าแผง โดยบางล็อคก็กั้นตะแกรงเป็นห้องๆไว้เก็บสินค้าบนแผงไปในตัว ถ้ามองจากถนนเพชรเกษมเข้าไป ตลาดนี้มีเจ็ดช่องทางเดินแนวลึกและมีทางเดินแนวขวางอีกสี่ช่องทาง ซึ่งทางเดินแนวขวางนี้เชื่อมกับทางเข้าออกข้างอาคารสองด้านซ้ายและขวาครบทั้งสี่ช่องทาง

ส่วนสินค้าที่ขาย ถ้าออกจากอาคารเจ็ดโค้ง แล้วเข้าอาคารสองต่อเลย โซนหน้านี้จะเน้นของใช้ เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้าสตรี เครื่องเขียน กระเป๋า ของเล่นเด็ก เสื้อผ้าเด็ก เครื่องแต่งกาย และของใช้ในบ้าน แต่ก็มีของชำและของแห้งรวมอยู่ด้วย เมื่อเข้าสู่กลางอาคารไปถึงท้ายอาคาร แถบนี้เป็นของกินล้วนๆ โดยแผงปูนทางซ้ายริมอาคารมีแต่เนื้อวัวหลายเจ้า ขณะที่แผงทางขวาริมอาคารขายเนื้อหมูเป็นทางยาวเช่นกัน ส่วนของกินอื่นๆก็มีเนื้อไก่ หมากพลู ของกินเล่น อาหารทะเล สัตว์น้ำจืด ของหมักดอง ผักสด ของชำ อาหารแช่เย็น น้ำกะทิ ขนมไทย และของแห้ง

อาคารสองนี้ยังมีบันไดขึ้นชั้นบนด้วย แต่ด้านบนไม่ได้ขายอะไร

นอกจากแผงต่างๆแล้ว ด้านข้างอาคารสอง(ที่สามารถเข้ามาจากตรอกข้างอาคารเจ็ดโค้งทั้งซ้ายขวา)ก็มีของขายเช่นกัน โดยฝั่งซ้ายมีรถเข็นอาหารพร้อมที่นั่งกินหลายเจ้า ส่วนบรรยากาศทางขวาคึกคักไปด้วยแผงลอยอาหารทะเล ของแห้ง กับข้าว ผลไม้ ขนมไทย เครื่องดื่ม และของเล่นเด็ก

ทีนี้เมื่อมาสุดอาคารสอง จุดนี้มีทางเข้าออกแค่หนึ่งช่องทาง ถ้าออกจากอาคารทางนี้ ด้านนอกรายล้อมไปด้วยตึกแถวที่เปิดหน้าร้านขายของและมีแผงลอยที่หน้าบ้านทุกหลัง ซึ่งมุมนี้มีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายหรือขวาหรือตรงไปได้

เราขอเริ่มเลี้ยวขวาก่อน ช่องทางนี้มีขาโต๊ะแผงลอยของอาหารทะเลมากมายทั้งสองฟาก รวมทั้งอาหารแช่เย็น เมื่อเดินมาสุดกำแพง จะมีทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายหรือขวาต่ออีก ถ้าเลี้ยวซ้ายก็เป็นซอกเล็กๆที่มีของหมักดองและของแห้ง แต่ถ้าเลี้ยวขวา ก็คือตรอกข้างอาคารสองฝั่งขวา(ที่เราได้อธิบายไปแล้ว)

ส่วนด้านหลังกำแพงตรงสามแยก(ที่เดินมาสุดทางเมื่อสักครู่)ก็คือ”ตลาดสาม”หรือ“ตลาดผ้า” และจากบริเวณนี้เลย เราสามารถเข้าออกอาคารตลาดผ้าได้สองช่องทาง ส่วนด้านหลังอาคารออกไปอีกฟาก ก็เข้าออกได้สองช่องทางเช่นกัน สำหรับแผงปูนในอาคารนี้ยกพื้นสูงและกั้นเป็นห้องๆด้วยโครงไม้ ในอาคารนี้มีสี่ช่องทางเดินแนวลึกและแนวขวางอีกหนึ่งช่องทาง โดยทางเดินแนวขวางนี้เชื่อมกับทางเข้าออกด้านข้างอาคารฝั่งละหนึ่งช่องด้วย สินค้าที่มีมากก็คือเสื้อผ้าตามชื่อตลาด ที่เหลือเป็นกระเป๋า เครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิว เครื่องสำอาง และของชำ

ถ้าเราเดินทะลุอาคารสามไปด้านหลัง ก็เจอตึกแถวเว้นช่วง กลายเป็นตรอกสามแยกขึ้นมา และจากสามแยกนี้ ถ้าตรงไป แผงลอยตรอกนี้เน้นผลไม้ แต่ก็มีพืชไร่ ไข่ ขนมขายส่ง ผักสด ของชำ และอาหารทั่วไปพร้อมที่นั่ง จนไปสุดทางเข้าออกถนนในซอยเพชรเกษม 70 บริเวณแผงดอกไม้ไหว้พระ

แต่ถ้าเลี้ยวขวา เส้นนี้มีเสื้อผ้าสตรี อาหารทะเล กับข้าว เครื่องแต่งกาย กระเป๋า กิ๊บช้อป และขนมขายส่ง จากนั้นยังมีตรอกให้ตรงหรือเลี้ยวขวาอีก ถ้าเลี้ยวขวาเข้าตรอกก่อน เราจะเห็นผักสด กับข้าว อาหารทะเล เนื้อไก่ ของแห้ง และของหมักดอง จนไปบรรจบกับตรอกข้างอาคารสองที่ฝั่งขวา (ซึ่งกลางตรอกนี้ไปทางขวามีทางเข้าออกข้างตลาดสามอยู่หนึ่งช่อง) แต่ถ้าเลือกตรงไปแทน จะเป็นตรอกข้างโรงแรมก่อนไปออกถนนเพชรเกษม

คราวนี้จากสามแยกที่ออกจากอาคารสามเมื่อสักครู่ ถ้าเราเลี้ยวซ้าย ก็เป็นตรอกที่ไปออกถนนสระสรงได้ ซึ่งเส้นทางนี้มีสินค้ามากมาย เริ่มตั้งแต่สัตว์น้ำจืด ผักสด อาหารทะเล ของปิ้งทอด ผลไม้อบแห้ง เสื้อผ้า ของกินเล่น อาหารทะเลแห้ง อาหารตามสั่ง ขนมไทย เครื่องสำอาง ชุดใส่บาตร ของหมักดอง น้ำกะทิ เครื่องประดับ อาหารแช่เย็น ไปจนถึงขนมจีนน้ำยา

และก่อนจะถึงปากตรอกนี้ ซ้ายมือยังมีซอกแคบๆให้เข้าไปอีก (ซึ่งซ้ายมือกลางซอกนี้สามารถเข้าออกข้างอาคารสามได้หนึ่งช่อง) สำหรับซอกนี้มีผักสด ของชำ ผลไม้ดอง และเสื้อผ้า

มาทะเลหัวหินทีไร ถ้าตื่นเร็วสักหน่อย ก็มักมาอุดหนุนของกินที่ตลาดฉัตรไชยทุกครั้ง แต่คราวนี้ขอเปลี่ยนอุดมการณ์ดีกว่า คือเน้นสำรวจตลาดแทนเพราะอยากเห็นภาพรวมของตลาดเช้าแห่งนี้เหมือนกัน แต่ไหนๆมาเดินทั้งที จะไม่ให้จ่ายตลาดเลย ทีมงานคงเหงาแย่ สรุปขอจับปลาสองมือแล้วกัน แต่มือไหนจะได้ปลาอะไร ยังไม่รู้
บน - เริ่มจากถนนเพชรเกษมก่อน ภาพนี้คืออาคารเจ็ดโค้ง เดี๋ยวเราเข้าจากด้านหน้านี้กัน ส่วน“เจ็ดโค้ง”เป็นอย่างไร เชิญนับจำนวนหลังคาโค้งด้านบนได้
ซ้ายบน – แผงในอาคารเจ็ดโค้งยกพื้นสูงทั้งหมด ป้าเจ้านี้เลยขึ้นไปถีบจักรเย็บผ้าอยู่ด้านบน ใครอยากเปลี่ยนซิปหรือแก้ทรงอะไร ก็บอกมา
ขวาบน – เครื่องทำกุญแจอยู่พื้นด้านล่าง
- สำรวจอาคารเจ็ดโค้งหอมปากหอมคอแล้ว เราไปต่ออาคารสองหรือตลาดปลาที่อยู่ถัดไปเลย
ซ้ายกลาง – อาคารสองจะมีผู้คนพลุกพล่านมากขึ้นและเป็นอาคารที่ใหญ่สุดในบรรดาทุกอาคารของตลาดฉัตรไชย
ขวาล่าง - ซ้ายมือของอาคารเน้นเนื้อวัวอยู่หลายแผง เนื้อสัน เนื้อสะโพก และเครื่องในมีครบครัน ใครมาโซนนี้รับรองไม่ผิดหวัง
ซ้ายล่าง – ส่วนทางขวาของอาคารตลอดแนวเป็นแผงหมู อย่างเจ้านี้โดดเด่นที่ขาหมู ส่วนซี่โครง เนื้อแดง หมูสามชั้น และเครื่องในก็มี

ยังวนเวียนในอาคารสองอยู่
ซ้ายบน – เจ้านี้แยกชิ้นส่วนไว้อย่างดีงาม มีทั้งเนื้อสะโพก สันใน สันนอก สันคอหมู ซี่โครง สามชั้น หมูบด เลือดหมู ตับ และไส้อ่อน
ขวาบน – อกไก่ สันในไก่ ขาไก่ ตีนไก่ ปีกไก่ น่องไก่ โครงไก่ และไก่ทั้งตัวครบองค์ประชุม
ซ้ายกลางบน – ทีมงานเดินผ่านหัวมุมมาเจอแผงผักพอดี ทั้งร้านมีผักชีฝรั่ง บร็อกโคลี กะหล่ำม่วง ผักบุ้งจีน ข้าวโพดอ่อน พริกหวาน ผักแขนง กะหล่ำดอก มะเขือเทศ ฟักทอง มันฝรั่ง เห็ดหูหนู คะน้า ขึ้นฉ่าย ผักกาดหอม พริกไทยอ่อน ผักกาดขาว สาระแหน่ โหระพา ขิง พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า กระชาย กะหล่ำปลี หอมใหญ่ หัวไช้เท้า ฟักเขียว แตงกวา ถั่วผักยาว ผักบุ้งไทย มะเขือยาว บวบเหลี่ยม และแคร์รอต
ขวากลางบน - ป้าล็อกนี้ขายของแห้งของชำมากมาย ภาพรวมก็มีกะทิกล่อง มะนาวดอง ขิงดอง น้ำไตปลาขวด กระเทียมโทนดอง หนำเลี้ยบกระป๋อง นมข้นจืด น้ำปลา พริกป่น ซอสมะเขือเทศ ผงแกงกะหรี่ ซีอิ๊วขาว หอมเจียว น้ำส้มสายชู เต้าเจี้ยว ผงปรุงอาหาร สาคูใบเตย ซอสพริก แป้งทอดกรอบ สีทำหมูแดง น้ำจิ้มไก่ ซอสปรุงรส ผงน้ำยำ ไม้เสียบลูกชิ้น ขมิ้นผง เครื่องแกง เครื่องพะโล้ น้ำไตปลา กะปิ น้ำตาลกรวด ผงชูรส น้ำมันพืช ปลากระป๋อง และเกี่ยมฉ่ายกระป๋อง
ซ้ายกลางล่าง - จุดนัดพบของปลาดุก ปลาช่อน ปลาไหล ปลานิล และกบอยู่ที่ร้านนี้
ขวากลางล่าง - มาอาคารนี้ครั้งใด เห็นป้าแล่เนื้อปลาอินทรี(ทำทอดมัน)ไม่หยุดมือ ขณะที่ลูกมือก็ช่วยอยู่ข้างๆ
ซ้ายล่าง - ตัวอย่างอาหารแช่เย็นเจ้านี้มีเต้าหู้ปลา หมูยอ ถั่วงอก หมี่เหลือง แหนมปลา เนื้อหมูเด้ง ไก่กระเทียม ปูอัด ลูกชิ้นเอ็นหมู ลูกชิ้นเนื้อวัว รวมทั้งกุยช่ายขาว ถั่วงอก และหมี่เหลือง
ขวาล่าง - หลายแผงในอาคารสองยกพื้นสูง หลายคนเลยอยู่บนแผงอย่างที่เห็น เจ้านี้กำลังง่วนคั้นน้ำกะทิอยู่

ตลาดปลายังไม่จบง่ายๆ ต่ออีกนิด
ซ้ายบน – ลุงแผงนี้ชำนาญน้ำตาลปี๊บและน้ำตาลปึกจริงๆ นอกจากนี้ยังมีถั่วลิสง ถั่วลิสงคั่ว ถั่วลิสงบด น้ำกระเทียมดอง ไปจนถึงน้ำตาลทรายแดงและขาว
ขวาบน - แม่ค้าน้ำแข็งไสคงมาช้อปเสบียงจากแผงนี้หลายคน เริ่มจากข้าวต้ม(สามเหลี่ยม) สาคู(ใหญ่) ลูกชิด มัน ทับทิมกรอบ วุ้นมะพร้าว เฉาก๊วย ทับทิมแป้ง ซาหริ่ม วุ้น ไปจนถึงลอดช่อง
ซ้ายกลางบน - หมากแห้ง หมากดิบ หมากพม่า ปูนแดง ปูนขาว และยาเส้นมวนบุหรี่ก็เข้าร่วมก๊วนด้วย
ขวากลางบน – พ่อแม่พาลูกมาช้อปเสื้อใหม่ๆได้ที่ร้านนี้
ซ้ายกลางล่าง - ร้านข้าวของจิปาถะก็มีเช่นกัน ตัวอย่างคร่าวๆคือนาฬิกา สมุด แก้ว ถ่านไฟฉาย คอตตอนบัด พัดลมพกพา ไฟแช็ก เครื่องคิดเลข คัตเตอร์ กาว หัวต่อก๊อกน้ำใบพัด ร่ม กระติกน้ำ กระจก พาน หวี ถ้วย ปากกาไวต์บอร์ด จานชาม สายชาร์จ กรอบรูป ไฟฉาย ลิควิดเปเปอร์ รองเท้าใส่ในบ้าน กรรไกรตัดเล็บ โบว์มัดผม ฟองน้ำ คลิปหนีบกระดาษ คลิปดำ และแปรงสีฟัน
- จากนั้นให้ออกไปหลังอาคารสอง เราจะเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ตรงไป หรือเลี้ยวขวา ทีมงานขอไปทางขวาก่อน
ขวากลางล่าง – ทันทีที่เลี้ยวมา อาหารทะเลก็รอต้อนรับทุกคนทันควัน ซ้ายขวาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำทั้งนั้น
ซ้ายล่าง – เริ่มที่หมวดปลา เจ้านี้มีปลากะพงขาว ปลาเก๋า ปลาอั้งเกย ปลาดัก ปลาเต๋าเต้ย ปลาจาระเม็ดดำ ปลาจาระเม็ดขาว ปลากระบอกท่อนใต้ ปลาตาเดียว และปลาลิ้นหมา
ขวาล่าง – กุ้งขาว กุ้งแชบ๊วย กุ้งแม่น้ำ หอยตลับ หอยแมลงภู่ หมึกศอก และหมึกหอมขอแชร์พื้นที่ด้วยคน

กลิ่นคาวของอาหารทะเลยังติดจมูกอยู่เลย
ซ้ายบน – หอยนางรมและหอยแมลงภู่แกะรอเรียบร้อย พร้อมเครื่องเคียงเบื้องล่างคือ หอมเจียว น้ำจิ้มซีฟู้ด และชะอม ส่วนหอยหมาก หอยลาย และหอยตลับยังอยู่ดีในฝา ขณะที่ปูจืดอยู่มุมไกลสุด
ขวาบน - เนื้อปูก้อนและกรรเชียงปูแยกใส่เป็นถุงๆทางซ้าย ส่วนปูม้าสดๆอยู่ทางขวา
ขวากลางบน – แผงนี้มีแต่กั้งกระดาน
- เมื่อเดินมาเจอสามแยก ฝั่งซ้ายจะเป็นทางเล็กๆ แต่ให้เราเลี้ยวขวาไปก่อน
ซ้ายกลาง – สินค้าเลียบทางเดินข้างอาคารสองฝั่งขวาครึกครื้นดี ทุกคนสามารถเดินตรงไปออกถนนเพชรเกษมได้
ขวากลาง - ปลาทะเลหลายชนิดอวดโฉมให้เลือกสรร เริ่มตั้งแต่ปลาน้ำดอกไม้ ปลาอินทรีบั้ง ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง ปลาเก๋า ปลาข้างปาน ปลาจาระเม็ด ไปจนถึงปลาจวด
ซ้ายล่าง - เนื้อปลาข้างเหลืองสำหรับใครที่อยากทำคั่วกลิ้งมื้อต่อไป เจ้านี้จำหน่ายแบบชิ้นและแบบบด ส่วนด้านหลังคือทอดมัน(ปลาอินทรี)ปรุงสำเร็จ
ขวาล่าง - ป้าแผงนี้มีหน่อไม้ต้ม หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง หอมดอง และปลายี่สนผัดหวานมาจำหน่าย

ยังอยู่ข้างอาคารฝั่งขวา
ซ้ายบน – กับข้าวโต๊ะนี้มีแกงส้ม แกงเขียวหวานหมูย่าง แกงป่า ผัดฟักทองไข่เค็ม ลาบหมู กะเพราหมูผัดลูกชิ้น ปลาทอด และไข่ต้ม
ขวาบน – โต๊ะนี้ขายขนมจีนพร้อมผักเหนาะสารพัด ส่วนน้ำราดมีน้ำยา น้ำพริก และไตปลา รวมทั้งแกงต่างๆเช่น ขาไก่ซูเปอร์ แกงไก่ แกงเนื้อ พะโล้ ฯลฯ หรือเราจะราดข้าว(แทนกินกับขนมจีน)ก็ได้ ขณะที่เครื่องดื่มมีโอเลี้ยง น้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟ ลำไย น้ำอัญชัน ชาดำเย็น มอลต์รสช็อกโกแลต และน้ำดื่ม
- ช่วงสามแยกที่เลี้ยวมาเมื่อสักครู่ มีทางเข้าอาคารสามหรือตลาดผ้าอยู่สองประตูด้วยกัน ไม่รอช้าดีกว่า
ซ้ายกลางบน – ทิวทัศน์สมกับชื่อตลาดผ้าจริงๆ สารพัดการสวมใส่ตามอายุมีให้เลือกครบ แต่นอกจากผ้า หมวดพระรองก็มีด้วย
ขวากลางบน – เสื้อผ้าของสตรีและเสื้อลูกไม้ของคนสูงวัยอยู่มุมนี้
ซ้ายกลางล่าง – ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า หมอน และผ้าห่มไม่มีพลาด
ขวากลางล่าง – โซนรองเท้ามาเป็นเซ็ตใหญ่ เริ่มตั้งแต่รองเท้าคัทชูชายหญิง รองเท้าส้นตึก รองเท้าบัลเลต์ รองเท้าส้นสูง รองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬา รองเท้านักเรียน รองเท้าเด็ก ไปจนถึงรองเท้าแตะแบบสวมและแบบหนีบ
ซ้ายล่าง – ล็อกนี้มีสินค้าอยู่หน้าร้านตามรายการนี้ ดอกไม้จีนแห้ง ผักกาดดองกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สาหร่ายแห้ง เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม หลอดดูด ผงชูรส ซีอิ๊วขาว นมข้นหวาน น้ำจิ้มไก่ น้ำส้มสายชู มะนาวขวด หอมเจียว นมข้นจืด กะทิกล่อง น้ำมันพืช น้ำปลา กาแฟซอง ถุงหิ้ว วุ้นเส้น ซอสพริก กระเทียมเจียว ซอสมะเขือเทศ ถุงร้อน ดอกเก๊กฮวย กีจี้ ลูกผักชี เชือกฟาง น้ำกระเทียมดอง ใยขัด หนังยาง แป้งทอดกรอบ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลกรวด และปลากระป๋อง
ขวาล่าง – ความงามของพ่อค้าแผงนี้มาเต็มหน้ากระดานจริงๆ เช่น โลชั่นปกป้องแสง ครีมผิวใส สบู่บำรุงผิว ครีมบำรุงผิวหน้า แป้งพับ ดินสอเขียนคิ้ว บอดี้ไวท์เทนนิง ลิปสติกอายไลเนอร์ ครีมนวดผม ยาย้อมผม อายแชโดว์ บลัชออน ฯลฯ



ตอนนี้ออกจากตลาดผ้าไปหลังอาคารต่อ เราจะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวา แล้วเดินตรงไปทางตรอกเพื่อออกถนนเพชรเกษมข้างโรงแรมดำรงค์โฮเตลก่อน
ซ้ายบน – เคานเตอร์กับข้าวร้านนี้เห็นแต่สีเหลืองๆทั้งนั้น ทีมงานกำลังยืนมองแกงหน่อไม้ใส่ไก่ แกงเทโพ แกงไตปลา กะเพราหมู ผัดเผ็ดปลาดุก ไข่พะโล้ และต้มจืดฟักใส่ลูกชิ้น
ขวาบน – ซุ้มนี้จำหน่ายโบว์มัดผม ยางรัดผม กิ๊บติดผม หวี ที่คาดผม ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย เป้ใบเล็ก กระเป๋าสตางค์ หมวกชาวนา ต่างหู ริชแบนด์ ถุงเท้า ผ้าปิดปาก พวงกุญแจ พู่ ตัวห้อยกระเป๋า สายสร้อยคอ และริชแบนด์
ซ้ายกลางบน - ห้องนี้ขายผ้าม้วน ผ้าขาวม้า เสื่อน้ำมัน และด้าย ใครต้องการรายละเอียดเชิงลึก ต้องถามคนขายดู
- ทีนี้ย้อนกลับมาใหม่ คือออกจากอาคารสาม แล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปเช่นเดิม จะมีสามแยกอยู่ ถ้าเราเลี้ยวขวาเข้าแยกนี้ ก็คือตรอกต่อไปนี้
ขวากลาง – ตรอกนี้มีข้าวของอีกมากและสามารถไปออกทางเดินเลียบข้างอาคารสองฝั่งขวาได้ด้วย
ซ้ายกลางล่าง - พ่อค้าร้านนี้มีเนื้อหมูป่า เนื้อนกกระทา เนื้อกบ หอยเชอร์รี่ เนื้อปลาดุก ปลานิล และปลาทับทิมเป็นตัวช่วยสำหรับกับข้าววันนี้
ซ้ายล่าง – ไก่ทาขมิ้นเป็นตัวๆ
ขวาล่าง – ของเล่นร้านนี้อยู่ในโหมดขาลุยจริงๆ คร่าวๆก็มีรถของเล่นบังคับด้วยรีโมทไร้สาย รถแบตเตอรี่อิเล็กโทรนิก ตัวต่อไดโนเสาร์ เกมตกปลา ชุดตัวต่อรางรถไฟฟ้า ตัวไดโนเสาร์ รถบรรทุก รถขนดิน มอเตอร์ไซค์สามล้อนั่งได้ ดาบอัศวินพร้อมโล่ โมเดลบิ๊กไบก์ ปืนกล เฮลิคอปเตอร์ รถเครน กีตาร์สิบเสียง สกูตเตอร์ ตัวปลา ของเล่นจิ๊กซอว์ ตัวปลาปักเป้า ชุดทำกับข้าว และเต่าทองบังคับบิน

เดินออกจากตลาดผ้าที่ด้านหลังอีกครั้ง แต่เราไม่เลี้ยวขวาแล้ว ให้เลือกตรงขึ้นไปแทน
ซ้ายบน – กับข้าวกับปลายังสมบูรณ์พูนสุข ซอยนี้มีร้านพร้อมที่นั่งกินเพิ่มเข้ามาด้วย
ขวาบน – แผงนี้จำหน่ายข้าวโพดอ่อน พริกหนุ่ม พริกชี้ฟ้า พริกหยวก กะหล่ำดอก กระชาย พริกไทยอ่อน ต้นหอม ผักชี เห็ดหูหนู ฟักเขียว คะน้า ถั่วหวาน ผักบุ้งไทย และแตงกวา
ซ้ายกลางบน – รสชาติอาหารอร่อยขึ้นแน่เพราะพ่อค้ามีพริกแห้ง ถั่วลิสง เครื่องแกง มะนาวดอง ผงชูรส กระเทียมเจียว ไช้โป้ว หน่อไม้ดอง เกี่ยมฉ่าย มะขามเปียก หอมแดง น้ำไตปลาขวด ข้าวคั่ว กระเทียมสับ น้ำตาลทรายขาว พริกไทยดำ เกลือ กระเทียมดอง กะปิ น้ำพริกเผา พริกป่น ขิงดอง กระเทียมโทน และน้ำปลา
ขวากลางบน – แม่ค้าขายข้าวต้มปลา(สีกุน)ให้ลูกค้านั่งกินหรือซื้อกลับบ้าน
ซ้ายกลางล่าง - บ้านหลังนี้เปิดชั้นล่างขายส่งสินค้ามากมาย ตัวอย่างเช่น พายกรอบ ของเล่นตอกแผง ขนมปังสอดไส้ มันฝรั่งทอดกรอบ เยลลี่ ขนมโมจิ เค้กกล้วยหอม โดนัท ขนมงาพอง ข้าวเกรียบกุ้ง พายสติ๊ก ขนมเปี๊ยะ มันฝรั่งกรอบเกลียว ถั่วลิสงอบกรอบ แครกเกอร์กรอบ ขนมลูกเต๋า เวเฟอร์โรล ช็อกโกแลตบอล ข้าวโพดกรอบ พายสับปะรด แซนด์วิชคุกกี้ เลเยอร์เค้ก ถั่วทอด ขนมผิง แซนด์วิชไส้หมูหยอง คุกกี้สิงคโปร์ และถั่วกรอบแก้ว
- ตอนนี้ให้ย้อนกลับมาที่สามแยกใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อไปออกถนนสระสรงเลย
ขวากลางล่าง – ย่านนี้มีผู้คนพลุกพล่านตลอดซอยจนถึงถนนสระสรง ส่วนของกินยังคงเต็มร้อย (จากภาพ ทางเดินในซอยนี้แบ่งเป็นสองฝั่ง แต่ช่องทางเดินในภาพจะคึกคักกว่าอีกฝั่ง)
ซ้ายล่าง – แผงนี้มีเส้นก๋วยเตี๋ยวครบทุกเส้น รวมทั้งหมูยอ แหนม และเครื่องแกง
ขวาล่าง – บริเวณปากซอยมีแม่ค้านั่งขายน้ำใบย่านาง หน่อไม้ต้ม ฝักกระถิน และยอดมะระขี้นก ขณะที่ป้าที่นั่งติดกันขายผลไม้เชื่อมอบแห้งอันได้แก่ แกนสับปะรด มะเขือราชินี พุทราจีน มะขาม มะม่วง แคนตาลูป มะกอก และบ๊วย รวมทั้งน้ำผึ้งขวด

จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน
ซ้ายบน - รถเข็นคันนี้ขายไก่ทอด
ขวาบน - แม่ค้ากำลังทำข้าวเกรียบอ่อน สาคู และข้าวเกรียบปากหม้อ (ทุกอย่างเป็นไส้ถั่ว ไม่ผสมเนื้อสัตว์)
ซ้ายกลางบน - เจ้านี้เน้นขนมตาลโดยเฉพาะ เพิ่งเสร็จตอนหัวรุ่งเลย กลิ่นหอมอ่อนๆจึงโชยมา
- สำหรับซอยที่มาออกถนนสระสรงนี้จะมีซอกแคบๆข้างอาคารสามอยู่ทางขวา(ก่อนถึงปากซอย)ด้วย เราเดินเลี้ยวเข้าไปได้ เมื่อเดินไปสักพัก ซอกจะเริ่มกว้างขึ้นกลายเป็นตรอก
ขวากลางบน – ตรอกนี้เป็นเส้นทางที่กว้างขึ้นแล้ว ตัวเลือกซ้ายขวาไม่มีออมมือสักนิด
ซ้ายกลางล่าง – มุมนี้มีมันเทศ พริกหวาน หอมแดง กระเทียม กะหล่ำม่วง ผักกาดขาว กะหล่ำดอก ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดฟาง มะเขือเทศ พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า ขิง และบร็อกโคลี
ขวากลางล่าง – ของแห้งของชำจัดเต็มสม่ำเสมอทุกร้าน ตัวอย่างร้านนี้มีซีอิ๊วขาว ผงชูรส น้ำมะนาวขวด กระเทียมเจียว ขิงดอง พริกป่น ข้าวคั่ว กระเทียมดอง หอมเจียว ปลาร้า เครื่องต้มจืด เครื่องพะโล้ หอมแดง ปลากระป๋อง ผงปรุงรส เก๋ากี้ ลูกเดือย น้ำส้มสายชู แป้งทอดกรอบ พริกไทยดำ ซอสปรุงอาหาร เห็ดหอม กระเพาะปลา พริกแห้ง น้ำปลา น้ำไตปลา ซอสมะเขือเทศ เครื่องผงกะหรี่ รวมทั้งปืนจุดเตาแก๊ส
ซ้ายล่าง - เครื่องแกงเจ้านี้จัดทำรสชาติมาเต็มสูบ ป้ายอธิบายไว้ครบเลย เริ่มจากแกงพะแนง แกงส้ม(ภาคใต้) แกงเขียวหวาน แกงส้ม(ภาคกลาง) แกงเผ็ด น้ำยา แกงคั่วกลิ้ง แกงไตปลา แกงมัสมั่น แกงป่า ไปจนถึงกะปิและน้ำพริกเผา
ขวาล่าง – ลุงทำผลไม้ดองมาจำหน่ายอยู่ข้างบันไดอาคารสาม ทั้งหมดมีมะม่วง กระท้อน องุ่น มะยม มะกอก มะดัน มะปราง และมะขาม

ในตรอกนี้มีแยกเป็นทางเล็กๆให้เดินไปอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเส้นทางนี้ไปบรรจบกับทางเลี้ยวซ้ายของสามแยกหลังจากเดินพ้นโซนอาหารทะเล ในตอนนั้นทีมงานเลี้ยวขวาที่สามแยกไปก่อน แต่ถ้าเราเลี้ยวซ้ายแทน ก็คือทางเล็กๆสายนี้
ซ้ายบน – แม่ค้าโต๊ะนี้นำปลานึ่งสารพัดมาขาย ทั้งปลาทู ปลาลัง และปลาสีขน นอกจากนี้ยังมีปลาแดดเดียวต่างๆ เช่น ปลาโอ ปลาหางแข็ง ปลาจวด ปลาสลิด ปลาทูกัง ฯลฯ รวมทั้งกบย่าง
ขวาบน – บ้านชั้นล่างหลังนี้ขายของใช้ทั่วไป ทั้งหมดในภาพมีเชือกฟาง น้ำอัดลม ใยขัด ฝอยสแตนเลส ทิชชู่ ธูปเทียน แชมพู น้ำยาล้างห้องน้ำ ถุงร้อน น้ำยาซักผ้าขาว หลอดดูด ปลากระป๋อง น้ำยาล้างจาน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงซักฟอก ถุงหิ้ว เกี่ยมฉ่ายกระป๋อง แป้งเด็ก ผงชูรส หนังยาง นมข้นจืด กาแฟกระป๋อง เบียร์ สเปรย์กำจัดแมลง ผงปรุงอาหาร เหล้า น้ำดื่ม แป้งเย็น ซีอิ๊วขาว สมุดจด วุ้นเส้น ใบชา และไฟแช็ก
- คราวนี้ให้ย้อนมายังสามแยกหลังจากเดินออกจากอาคารสอง ในครั้งนั้นเราเลี้ยวขวาไปโซนอาหารทะเล แต่คราวนี้ทีมงานขอเดินตรงขึ้นไปบ้าง สำหรับเส้นนี้ไปออกถนนสระสรงได้อีกจุด
ขวากลางบน – ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็เรียกน้ำย่อยได้ทุกช่อง
ซ้ายกลาง - กับข้าวบนโต๊ะนี้มีต้มยำขาหมู ผัดฉ่าปลา ผัดผัก ปลาดุกทอดกรอบ ลาบวุ้นเส้น แกงส้มมะรุม แกงพะโล้ ต้มยำไก่ แกงจืด แกงส้ม แกงเขียวหวาน และพะแนงหมู
ขวากลางล่าง - แม่ค้าร้านนี้มีไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่เยี่ยวม้า และไข่เค็มมาจำหน่าย (ในตลาดมีเจ้าใหญ่ๆแบบนี้ประมาณสองสามเจ้า)
ซ้ายล่าง - ไปดูแผงผลไม้กันหน่อย ส้มจีน ลูกพลับ ส้มเขียวหวาน มะละกอ ละมุด ลำไย กล้วยน้ำว้า แอปเปิลเขียว แอปเปิลแดง องุ่นแดง และสาลี่ก้านยาวรวมตัวทักทายทุกคน
ขวาล่าง - ก็ว่าอยู่ว่าขนมไทยหายไปไหน แม่ค้าร้านนี้เรียงขนมได้น่ากินดี ในภาพมีข้าวเกรียบอ่อน ตะโก้แห้ว เปียกปูน ขนมเหนียว(กินกับน้ำตาลปี๊บและข้าวเม่าคั่ว) ขนมต้ม ขนมน้ำดอกไม้ ขนมเข่ง(ไส้เค็ม) หม้อแกงไข่ วุ้นเป็ด ขนมต้มแดง และถั่วแปบ

ถ้าหิ้วของจนเมื่อย ก็สลับข้างถือ
ซ้ายบน - ดอกไม้สดไหว้พระก็ขอร่วมวง ไม่ว่าจะเป็นดาวเรือง กล้วยไม้ กุหลาบ คัตเตอร์ขาว ต้นเข้าพรรษา และเบญจมาศ ของไหว้ศาลตายายและพระพิฆเนศ ธูปเทียน และพวงมาลัยก็พร้อมจำหน่าย
ขวาบน - ตึกแถวห้องนี้เปิดหน้าร้านขายภาชนะและของใช้เต็มร้าน ตัวอย่างก็เช่น กระติบ ครก สาก หม้อ ขัน ถ้วย ชาม กระทะ กระชอน ตะหลิว ช้อนส้อม ปิ่นโต ถ้วยโฟม ถุงสายรุ้ง เทปกาว ตะแกรง เขียง ไม้พาย ลูกบอล ใยขัด จานกระดาษ หม้อสุกี้ กรวยกรองน้ำ จวัก ราววงกลมหนีบผ้า รวมทั้งเหล้าดีกรี
- อนึ่ง ระหว่างเส้นทางตรงเข้ามานี้จะมีสี่แยกด้วย โดยทางเดินเป็นซอก แล้วกลายเป็นตรอกก่อนหน้านี้ ถ้าเดินตรงมาเรื่อยๆก็มาออกสี่แยกนี้ที่ทางขวา แต่ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจากแยกนี้แทน ก็เป็นตรอกศาลเจ้า ซึ่งมีสินค้าเช่นกัน
ซ้ายกลางบน - ของกินของป้า(ข้างศาลเจ้า)ใส่กล่องกันอลังการอยู่บนโต๊ะดังนี้ ข้าวผัดไข่ สาคูไส้หมู ทองหยอดฝอยทองกับเม็ดขนุน ข้าวโพดคลุกมะพร้าว ข้าวเหนียวขมิ้นหน้าปลาแห้ง ขนมเปี๊ยะ สับปะรดกวน เอแคร์ เค้ก ข้าวเหนียวหน้าสังขยา สาลี่กรอบ ขนมกล้วย ข้าวต้มมัด ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมปลา และข้าวเหนียวหมูหวาน
ขวากลาง – แผงนี้ขายอาหารตามสั่งทั่วไป
ซ้ายกลางล่าง – ตรอกนี้มีโซนมุสลิมด้วย อย่างเช่นเครื่องดื่มแผงนี้ที่มีชากาแฟ นมแพะ น้ำผลไม้ปั่น และข้าวต้มไก่
- ตอนนี้ให้ทุกคนกลับมาที่สี่แยก แล้วเดินตรงไปเพื่อไปออกถนนสระสรง จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามฟุตบาท เพราะช่องทางเดินที่มาออกถนนสระสรงนี้กับซอยที่ไปออกถนนสระสรงก่อนหน้ามีทางเดินฟุตบาทที่เชื่อมถึงกัน แถมฟุตบาทนี้จำหน่ายข้าวของตลอดทาง
ซ้ายล่าง – ตึกแถวห้องนี้เปิดหน้าร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ต่างๆ เช่น ปลา สุนัข แมว หมู ไก่ ฯลฯ
ขวาล่าง – หนูน้อยช่วยแม่ขายกระเป๋าและรองเท้าอยู่หน้าประตูเหล็กยืดของบ้านหลังหนึ่ง

ยังอยู่บนฟุตบาท
ซ้ายบน - ป้าร้านนี้นั่งแกะและหั่นผลไม้ตั้งแต่เช้ามืด ผลไม้ชิ้นมีขนุน สับปะรด และส้มโอ
ขวาบน - แผงนี้น่ารักสุดๆ ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ริมฟุตบาทก็เป็นแผงลอยได้ แม่ค้าทั้งทำเองและขี่มาขายเอง สินค้าที่จำหน่ายคือ สลัดผักและแซนด์วิช
ซ้ายกลาง – ทุกกล่องพร้อมแล้วสำหรับหมูแผ่นและหมูฝอยโปะหน้าข้าวเหนียวร้อนๆ
- กลับมาจับเจ่ากับสามแยกที่ออกจากอาคารสองอีกครั้ง แต่คราวนี้เหลือแต่เลี้ยวซ้ายเท่านั้น
ขวากลางบน – แสงสีจากหลอดไฟของโซนอาหารทะเลแห้งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่นานแล้ว
ซ้ายล่าง – อาหารทะเลแห้งสารพัดสูตรของร้านนี้เริ่มจากปลาเห็ดโคน ปลากะพง ปลาข้าวสาร กุ้งแชบ๊วย กุ้งหวาน กุ้งแก้ว หอยหวาน ปลาหวานข้าวแช่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไปจนถึงหมึกแห้งที่แขวนด้านบน
ขวากลางล่าง – แผงนี้เป็นผู้นำเรื่องหมึกจริงๆ ทั้งหมึกฉาบ หมึกอบเผ็ด หมึกอบเนย หมึกหิมะ หมึกจี๊ดจ๊าด หมึกเต่าทอง หมึกเกาหลี หมึกเนื้อหวาน หมึกไข่ หมึกแก้ว รวมทั้งปลาทูหอม กะตอยไข่จืด หอยดอง หอยเสียบดอง และหมึกริวกิวเส้น
ขวาล่าง – หมึกกระจายตัวในทุกร้านจริงๆ แผงนี้ยังมีปลาริวกิวหวาน ปลากุเลา และปลาอินทรีมาแท็กทีมด้วย

ปลายทางแห่งความสุขมาเยือนอีกครั้ง
ซ้ายบน – โซนนี้มีแผงข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้(หน้าต่างๆคือ ปลา กระฉีก กุ้ง สังขยา และกลอย)ซุ่มอยู่
ขวาบน – เจ้านี้มีน้ำพริกสารพัดชนิดดังนี้ น้ำพริกกุ้งกรอบ น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกปลาย่าง น้ำพริกปลากะพงซี้ด น้ำพริกปลาอินทรี น้ำพริกหมึก น้ำพริกปลากุเลา และน้ำพริกปลากะพงฟู
- ถ้าเดินไปเรื่อยๆ เราจะเจอสามแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายไป ก็คือช่องทางเดินข้างอาคารสองฝั่งซ้าย เราไปชมกันสักเจ้า
ซ้ายกลางบน – รถเข็นขายก๋วยจั๊บน้ำข้น
- จากโซนอาหารทะเลแห้ง ไม่ต้องเลี้ยวแล้ว เดินตรงอย่างเดียวเพื่อไปออกถนนเดชานุชิต(หรือถนนเพชรเกษมซอย 72) ตลอดทางนับจากนี้จนถึงริมถนนยังมีเมนูน่าลิ้มลองอีก
ขวากลางบน - ลุงป้าสองคนช่วยกันขายแกงใบมะขาม ต้มยำขาไก่ แกงขี้เหล็ก แกงส้มมะรุม แกงจืด ไข่พะโล้ ข้าวสวย ที่เหลือก็มีปลาทอด สะเดา ปูนึ่ง ปูหลน น้ำพริก ไข่ต้ม ขนมชั้น พุทราเชื่อม ขนมลูกเต๋า วุ้นกรอบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมเปี๊ยะ ฟักเชื่อม เค้กกล้วยหอม กะหรี่ปั๊บ และหอมดอง
ซ้ายกลางล่าง - พ่อค้ากำลังหั่นเป็ดย่างกับหมูกรอบ ขณะที่ผู้ช่วยตักข้าวใส่จานอยู่ข้างๆ
ขวากลางล่าง - ลุงคนนี้ปิ้งหมูไม้จนเพลิน ด้านข้างมีข้าวเหนียวดำไว้กินคู่ รวมทั้งลูกชิ้นปิ้ง
ซ้ายล่าง – ข้าวเหนียวปิ้งไส้กล้วยและเผือกกับกล้วยหักมุกปิ้งกำลังร้อนๆ
ขวาล่าง - น้าคนนี้สวมงอบขายกุยช่าย(ที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น)