เกาะไข่อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือปากบาราไปตามทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทางเรือประมาณ 33 กิโลเมตร มีขนาดตามความยาวประมาณ 300 เมตรและกว้างประมาณ 100 เมตร เป็นเกาะหินขนาดเล็กสองเกาะห่างจากกันประมาณ 250 เมตร มีสันดอนทรายเชื่อมระหว่างสองเกาะ หินส่วนใหญ่เป็นหินทราย มีโครงสร้างรอยแตกถี่หลายทิศทาง โดยช่องรอยแตกดังกล่าวมักมีสารเหล็กออกไซด์เข้าไปสะสมตัวอยู่ จึงมีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกกร่อนสูงกว่าเนื้อหินทราย บางบริเวณยังพบโครงร่างตาข่ายสามมิติของเหล็กออกไซด์โดยที่เนื้อหินได้สึกกร่อนหลุดไปหมดแล้ว
บริเวณเกาะด้านเหนือมีซุ้มประตูหินชายฝั่งที่เกิดจากคลื่นทะเลซัด มีลักษณะสวยงามแปลกตาและถือเป็นสัญลักษณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดสตูลอีกด้วย
เกาะไข่กลายเป็นเป้าหมายที่ทุกคนต้องมาเพราะมีสัญลักษณ์โด่งดังหนึ่งอย่างของจังหวัดสตูลแอบซ่อนตัวอยู่บนเกาะ นั่นก็คือ ซุ้มประตูหินโค้ง(หรือซุ้มรักนิรันดร์) แม้กระทั่งหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลสีสวยบนเกาะยังเป็นไม้ประดับให้กับภาพถ่ายไปชั่วคราว
บน – ใครที่นั่งเรือจากท่าเทียบเรือปากบาราไปเกาะหลีเป๊ะ ระหว่างทางเรือสปีดโบตจะแวะจอดเกาะไข่เป็นเวลา 20 นาทีให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูป แสงแดดจ้า น้ำทะเลใส ต้นไม้สีเขียว หาดทรายสีขาว และซุ้มประตูหินโค้ง ทุกอย่างจบในภาพเดียว
ไปดูซุ้มประตูหินโค้งที่ธรรมชาติช่างรังสรรค์ให้หายชื่นใจดีกว่า
ซ้ายบน – น้ำทะเลใสๆจากด้านหน้าซุ้มประตูหินโค้งไปจนถึงมุมไกลที่เป็นสีเขียวมรกต สวยงามสะอาดตาไปหมด
ขวาบน – เรามาถึงแลนด์มาร์กประจำจังหวัดเสียที จะสังเกตได้ว่า ซุ้มประตูแห่งนี้มีทั้งประตูเล็กและประตูใหญ่ แต่ประตูใหญ่เด่นและเดินลอดไปมาได้ เลยมีภาษีดีกว่า
ขวากลาง – เสาหินของซุ้มประตูตั้งตระหง่านไม่ว่าจะมุมใกล้หรือมุมไกล ธรรมชาติคงใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะปั้นได้แบบนี้
ซ้ายกลาง – เราลอดมาด้านหลังซุ้มประตูหินกันบ้าง และภาพนี้ก็คือบรรยากาศด้านหลังซุ้มประตูใหญ่
ซ้ายล่าง – คลื่นและน้ำทะเลที่หาดด้านหลังซุ้มประตูหินก็งดงามไม่แพ้ด้านหน้า
ขวาล่าง – ตบท้ายด้วยภาพซุ้มประตูหินที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปกัน
TODAY | THIS MONTH | TOTAL | |||
283 | 5220 | 297612 |