(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")

ตลาดนัดบาโอ๊ะ(บูเก๊ะตา)เป็นตลาดนัดทุกวันเสาร์บริเวณบ้านบาโอ๊ะ ผู้ที่มาจับจ่ายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวมาเลเซียที่ข้ามชายแดนมาทั้งทางรถยนต์ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซียและทางเรือรับจ้างผ่านแม่น้ำโกลก ส่วนที่เหลือเป็นคนไทยอีก 20 เปอร์เซ็นต์ โดยพ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มจัดแผงลอยตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่แผงลอยจะเริ่มเยอะก็ราว 10 โมงเป็นต้นไปและขายต่อเนื่องจนถึงเย็น

สำหรับตลาดนัดชายแดนแห่งนี้ไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่ที่จะไปสะพานข้ามชายแดน แต่เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านบาโอ๊ะ(บริเวณที่ติดกับท่าเรือข้ามแม่น้ำโกลก) ที่นี่เป็นตลาดนัดไม่ใหญ่นัก ถนนแต่ละสายในหมู่บ้านก็ไม่กว้างและมีระยะสั้นในแต่ละช่วง ทำให้แผงลอยทั้งสองฟากบนถนนดูอบอุ่น ส่วนข้าวของมีครบครันและชาวมาเลเซียก็ให้ความสนใจกันมาก

และจากจุดขึ้นลงท่าเรือนี้เอง จะมีถนนเป็นรูปตัวแอล ถ้าเรามองไปทางขวาก่อน จะมีถนนเลียบแม่น้ำซึ่งไม่ได้ขายอะไร แต่ถ้ามุ่งตรงเข้าหมู่บ้าน ฝั่งซ้ายของถนนเป็นด้านข้างห้องแถวปูนชั้นเดียว ขณะที่ฝั่งขวาเป็นบ้านชั้นเดียว สำหรับแผงลอยบนถนนซอยนี้ แค่เดินไม่กี่ก้าว เราก็เจอแผงแรกอยู่ใกล้สามแยกที่หนึ่งแล้ว จากนั้น จะเลือกเลี้ยวซ้ายหรือตรงขึ้นไปต่อก็ได้ ซึ่งมีสินค้าขายทั้งสองเส้นทาง

เรามาเริ่มสำรวจทางตรงที่มีระยะทางเกือบร้อยเมตรช่วงแรก แต่เป็นจุดที่มีแผงลอยบนถนนหนาแน่นที่สุดก่อน สำหรับแผงลอยริมทางทั้งสองฝั่งมีแต่ขาโต๊ะแผงลอยเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือก็มีผ้าฟาง ราวแขวน และลังพลาสติก ขณะที่ข้าวของก็มีขนมไทย ของใช้ส่วนตัว อาหารมุสลิม เครื่องดื่ม ของทอด สมุนไพร ของหมักดอง ผักพื้นบ้าน เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก ของเล่นเด็ก ของใช้ในบ้าน พืชไร่ สายตา ข้าวหมกไก่ทอด น้ำแข็งไส ผักสด กับข้าว นาฬิกา ผลไม้ ชากาแฟ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิว กือโป๊ะ ขนมมุสลิม และกระเป๋า

ส่วนบ้านขวามือก็มีเปิดหน้าร้านบางห้อง สินค้าที่ขายมีเสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก และผ้าคลุมสตรี ขณะที่ฝั่งซ้ายของถนนเป็นผนังด้านข้างของตึกแถวเท่านั้น

เมื่อเดินมาสุดทาง ถนนเส้นนี้จะบรรจบกับถนนอีกสายเป็นสามแยกที่สอง โดยฝั่งตรงข้ามสามแยกที่สองยังมีบ้านตึกสองชั้นที่เปิดหน้าร้านเช่นกัน ข้าวของมีดังนี้ ของใช้ในบ้าน กีฬา ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อน ของเล่นเด็ก และเสื้อผ้าสตรี ซึ่งจากสามแยกนี้ ถ้าเราเลี้ยวขวาไป ไม่มีแผงลอยอะไร แต่ถ้าเลี้ยวซ้าย จะมีเพิงไม้หลังใหญ่ขายสินค้าอยู่หลายล็อกบนลานดินด้านในฟุตบาททางซ้าย เมื่อเข้าไปดูแต่ละล็อก สินค้าที่ขายในเพิงก็เริ่มจากเสื้อผ้าเด็ก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิว ของใช้ในบ้าน ของใช้ส่วนตัว ไปจนถึงเสื้อผ้าชายหญิง

และถ้าเรายังเดินไปต่อ ก็จะเจอสามแยกที่สาม ซึ่งสามารถตรงไปหรือเลี้ยวซ้ายก็ได้ นอกจากลานเพิงทางซ้ายเมื่อสักครู่ บนถนนสายนี้ยังแผงลอยริมทางอีกสองสามเจ้าและมีบ้านอีกหลังที่เปิดหน้าร้านบริเวณสามแยกที่สามด้วย สำหรับของที่ขายตามจุดที่กล่าวมาก็มีชุดนักเรียน ของใช้ในบ้าน อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิว ของเล่นเด็ก และผลไม้

คราวนี้ย้อนกลับมาแยกที่หนึ่งอีกครั้ง แล้วเลี้ยวซ้ายแทน สำหรับถนนเส้นนี้ ฝั่งขวามีบ้านตึกสองชั้นอยู่สองช่วงเพราะมีเพิงไม้คั่นกลางหนึ่งหลัง ซึ่งทุกห้องต่างก็เปิดหน้าร้านกันอย่างคีกคัก ขณะที่ฝั่งซ้ายเป็นห้องแถวปูนชั้นเดียว ซึ่งก็เปิดหน้าร้านหลายห้องเช่นกัน จึงทำให้หน้าร้านของถนนสายนี้มีแต่สินค้าตลอดทาง แต่แผงลอยบนถนนก็มีอยู่บ้าง นั่นคือ รถพ่วงข้าง ขาโต๊ะแผงลอย และโต๊ะพับ (เพียงแต่มีจำนวนน้อยกว่าถนนช่วงแรก) เรามาเริ่มต้นที่แผงลอยริมทางซึ่งมีแต่ของกินดังนี้ อาหารอีสาน ของทอด ขนมมุสลิม เครื่องดื่ม กือโป๊ะ ไอศกรีม น้ำแข็งไส ของกินเล่น ผลไม้ อาหารมุสลิม และของปิ้งย่าง ส่วนสินค้าบริเวณหน้าร้านมีหลากหลายประเภทให้เลือก เริ่มตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย ของกินเล่น ชุดนักเรียน เครื่องนอน ของเล่นเด็ก อุปกรณ์รถ ผ้าคลุมสตรี กระเป๋า ของชำ เสื้อผ้าชายหญิง ของแห้ง และรองเท้า

ทีนี้เมื่อมาถึงปลายทาง ถนนเส้นนี้จะไปบรรจบกับถนนอีกสายเป็นสามแยกที่สี่ต่อ ซึ่งฝั่งตรงข้ามสามแยกที่สี่เป็นบ้านแถวชั้นเดียวยาวไปทั้งซ้ายและขวา (แต่ทางซ้ายเดินไปสั้นๆก็เป็นทางตัน ส่วนทางขวา จะไปบรรจบกับสามแยกที่สาม ซึ่งชาวมาเลเซียจอดรถริมถนนแถบนี้กันเยอะ) สำหรับของที่ขายด้านนี้มีเสื้อผ้าชายหญิง เครื่องนอน ของเล่นเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า ของกินเล่น เสื้อผ้าสตรี และของใช้ในบ้าน

สามแยกทั้งหมดที่กล่าวมา เมื่อนึกภาพ เราจะได้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่นเอง

และที่นี่คือหนึ่งในไม่กี่ตลาดนัดที่อยู่ไกลจากกรุงเทพมากที่สุดแล้ว

ตลาดนัดเมืองไทยมีมากมายก็จริง แต่ถ้าพูดถึงตลาดนัดที่ไกลจากกรุงเทพนับพันกิโลเมตร ตลาดนัดแห่งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในตลาดที่อยู่ห่างมากที่สุดแล้ว ที่นี่มีชาวมาเลเซียข้ามแดนมาซื้อสินค้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คนไทยมีราว 20 เปอร์เซ็นต์ และแม้จะเป็นตลาดนัดที่ไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศก็ทำให้ลืมเรื่องของขนาดไปเลย
ซ้ายบน - ขอเริ่มต้นความสุขบนถนนสายตรงช่วงแรกจากท่าเรือข้ามฟาก โดยเดินผ่านสามแยกที่หนึ่งไปจนถึงสามแยกที่สองก่อน (จากภาพ บรรยากาศช่วงแรกเป็นเส้นทางระหว่างสามแยกที่หนึ่งกับสามแยกที่สอง ซึ่งส่วนมากเน้นแผงลอยริมถนน ขณะที่บ้านเปิดหน้าร้านมีน้อยกว่า สำหรับแถบนี้มีของกินและของใช้เด่นพอกัน แต่ตอนนี้ชาวมาเลเซียข้ามมาช้อปกระจายแล้ว)
ขวาบน – เริ่มกันที่ขนมแผงนี้ก่อน มาให้เปิบกันแต่หัววันกับขนมบ้าบิ่น หม้อแกงถั่ว ขนมกล้วย และขนมอาเกาะ
ซ้ายกลางบน – ไก่ทอดร้านนี้เอาใจคนชอบกินไก่ เลยยกทุกสัดส่วนมาไว้บนโต๊ะ มีทั้งปีก คอ อก ตีน ไปจนถึงโครง ส่วนใครอยากเพิ่มข้าวเหนียว ร้านนี้พร้อมแล้ว
ขวากลาง – สำหรับโต๊ะยาวเจ้านี้ตั้งสำรับบันเทิงเริงใจกันไปข้างหนึ่ง ของคาวหวานเพลินตาจริงๆ ณ ตอนนี้ ที่อยู่ใกล้จอเป็นของหวานใส่ถุง ถัดไปเป็นขนมในถาด และไกลสุดเป็นกับข้าวในถาด(ใส่ถุงกลับบ้าน) ซึ่งเมนูทั้งหมดก็มีกล้วยเชื่อม ลอปะติแก ถั่วดำเปียก สาคูราดน้ำกะทิ ถั่วเขียวใส่สาคูต้มกะทิ ส่วนขนมในถาดมีเวาะฆอเมาะ ฆอเดาะห์ ปูโละกายอ วุ้นขนุน ข้าวเม่า วุ้นใบเตย ขนมต้ม ขณะที่ไกลสุดเป็นกับข้าวต่างๆ เริ่มจากมัสมั่นเนื้อ แกงเลียงกะทิ ผัดเผ็ดเนื้อ กะเพราไก่ เนื้อตุ๋น ผัดเปรี้ยวหวานไก่ พะแนงไก่ และยำเล็บมือนาง
ซ้ายกลางล่าง - ตอนนี้ใครที่กระหายเครื่องดื่ม เช่น ชากาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้หัวเชื้อ น้ำปั่นต่างๆ ฯลฯ มาชื่นใจกับร้านนี้ได้
ซ้ายล่าง - ยายตัวคนเดียวมาตั้งแผงขายของพื้นบ้านต่างๆ (เห็นลูกค้าประจำแวะเวียนมาเรื่อยๆ) เริ่มจากยอดลำเพ็ง มะเปรียง ดอกดาหลา ผักบุ้งไทย ชมพู่ พริก ข้าวต้มใบกะพ้อ ผักเสี้ยนดอง กล้วยน้ำว้า ปลาส้ม บวบเหลี่ยม ผักชีล้อม ผักแพว ข่า ตะไคร้ หอมแดง มะนาว มะเขือเปราะ มันสำปะหลัง มะพร้าวห้าว รวมทั้งน้ำบูดูขวด
- ของกินพออยู่ท้องแล้ว แต่ของใช้ช่วงแรกนี้ก็ห้ามเมินเช่นกัน
ขวาล่าง – บ้านหลังนี้เปิดหน้าร้านอยู่ทางขวาของถนน(ใกล้ท่าเรือ)จำหน่ายเสื้อผ้าสตรีสารพัดแบบ ส่วนด้านในมีให้เลือกอีกเพียบ

กำลังสนุกกับถนนช่วงแรกอยู่เลย
ซ้ายบน – ป้าร้านนี้มีสินค้าเล็กๆน้อยๆหลากหลายบนขาโต๊ะแผงลอย เช่น แป้งทาตัว แป้งเด็ก แชมพู ครีมนวดผม ครีมหน้าใส โฟมล้างหน้า เซรั่มลดริ้วรอย ยางรัดผม หวีสับ ที่รวบผม โบว์ผูกผม แหนบ ดินสอเขียนคิ้ว หวี สำลี กรรไกรตัดเล็บ ลิปมัน โรลออน ถ่านไฟฉาย ที่โกนหนวด ราววงกลมหนีบผ้า ฯลฯ
ขวาบน – เจ้านี้ตั้งแผงที่หน้าบ้านหลังหนึ่งขายสินค้าที่พลาดไม่ได้จริงๆ นั่นคือผ้าฮิญาบ
ซ้ายกลางบน - จากจุดคึกคักช่วงแรกเมื่อสักครู่จนเจอสามแยกที่สองต่อ แยกนี้มีบ้านตรงข้ามแยกเปิดหน้าร้านด้วย เมื่อเลี้ยวซ้ายจากแยกนี้ ก็เจอแผงสินค้ามากมายใต้เพิงไม้อีก ส่วนแผงลอยริมถนนมีไม่มากนัก เมื่อตรงไป ก็เจอสามแยกที่สาม ซึ่งมีบ้านบริเวณสามแยกที่สามเปิดหน้าร้านเช่นกัน เดี๋ยวเราไปสำรวจช่วงที่สองนี้ต่อเลย (จากภาพ บริเวณบ้านสีส้มหลังคาสีเขียวคือสามแยกที่สองที่เราเดินออกมาจากช่วงแรก ถ้าเลี้ยวซ้ายมา ก็คือเดินมาทางกล้อง โดยซ้ายมือของถนน(ที่เดินขึ้นมา)ก็คือเพิงไม้บนลานดิน แต่ถ้าเดินมาทางกล้องอีก ก็จะเจอสามแยกที่สามต่อไป)
- ขอเริ่มแผงใต้เพิงไม้สักสองร้าน
ขวากลางบน – ร้านนี้จำหน่ายยกทรง เสื้อกล้าม กางเกงสามส่วน และกางเกงขาสั้นเป็นหลัก
ซ้ายกลางล่าง – ส่วนร้านนี้มีคนมาเลเซียเลือกซื้ออยู่ ที่เห็นมีทั้งเสื้อผ้าเด็กกับเสื้อผ้าบุรุษและสตรี
ขวากลางล่าง – ขณะที่บ้านบริเวณสามแยกที่สามเจ้านี้ขายของจิปาถะมากมาย โดยหน้าร้านมีทั้งชุดนักเรียนชายหญิง สามล้อถีบของเด็ก รถหัดเดินเด็ก หมอนตุ๊กตา หมอนหนุน และรถของเล่นสารพัดแบบ สำหรับด้านในเป็นของอุปโภคต่างๆ เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผงซักฟอก สบู่ เสื่อยางพารา ฯลฯ
- คราวนี้กลับมาสามแยกที่หนึ่งอีกครั้ง แต่ให้เลี้ยวซ้ายแทนการตรงขึ้นไป
ซ้ายล่าง – เส้นทางนี้ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่พลุกพล่านไม่แพ้เส้นทางช่วงแรก แต่ที่พิเศษกว่าคือ นอกจากชาวมาเลเซียที่เดินสวนกันไปมาแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ของคนในหมู่บ้านฝั่งไทยก็มาจับจ่ายด้วย (จากภาพ ทางซ้ายเป็นห้องแถวชั้นเดียวที่เน้นตั้งแผงสินค้าอยู่หน้าบ้านติดริมถนน ขณะที่ตึกแถวทางขวาเน้นเปิดหน้าร้านให้เข้าไปเลือกซื้อสินค้าด้านใน ซึ่งช่วงนี้มีบ้านเปิดหน้าร้านมากกว่าเส้นทางช่วงแรกอย่างมาก ส่วนแผงลอยริมถนนก็พอมี แต่ไม่ล้นหลามเท่าช่วงแรก และถ้าสังเกตชายสีเสื้อแดงที่อยู่ไกลสุด หนุ่มคนนี้อยู่ตรงสามแยกที่สี่แล้ว)
ขวาล่าง – เรามาเริ่มต้นบ้านหลังนี้ที่เปิดหน้าร้านขายกระเป๋ากับรองเท้าก่อน สินค้าก็เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้านักเรียน รองเท้าแตะแบบสวม เป้เด็ก กระเป๋าสะพาย กระเป๋าคาดเอว ฯลฯ รวมทั้งของเล่นเด็กก็มีด้วย

ยังมีเปิดหน้าร้านอีกเยอะ พลาดได้อย่างไร
ซ้ายบน – ห้องไม้เจ้านี้(ในซอกระหว่างตึกแถว)ขายของเล่นมากมาย เช่น ปืนของเล่น ดาบของเล่น รถของเล่นต่างๆ ตุ๊กตา เครื่องบิน ห่วงยางเล่นน้ำ ฯลฯ
ขวาบน – บ้านตึกแถวหลังนี้มีสินค้ามโหฬารทีเดียว เริ่มตั้งแต่หน้าร้านมีม็อบถูพื้น กระติกน้ำร้อน พัดลมตั้งโต๊ะ ไม้แขวนเสื้อ น้ำมันเครื่อง หม้อ ไม้กวาด ยาสามัญประจำบ้านต่างๆ(เช่น ยาแก้ไอ ยาใส่แผล ยาแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย ฯลฯ) ร่ม เครื่องปั่นน้ำผลไม้ น้ำมันพืช ยาขัดรองเท้าหนัง ถังน้ำ เมล็ดพืชกระป๋อง เก้าอี้พลาสติก ชั้นวางพลาสติก เสื่อ ลังพลาสติก ไปจนถึงราววงกลมหนีบผ้า ขณะที่ด้านในมีตัวอย่างสินค้าอีกนับไม่ถ้วน เช่น น้ำยาล้างจาน หมอนสามเหลี่ยม น้ำยาซักผ้า น้ำยาเช็ดกระจก ผ้าห่ม ผงซักฟอก หมอนหนุน กระติกน้ำแข็ง น้ำยาล้างห้องน้ำ ฯลฯ
- จบจากของใช้แล้ว เราไปต่อของกินบนเส้นทางนี้บ้าง
ซ้ายกลางบน – รถเข็นคันนี้มีของทอดและปิ้งสารพัดมาเป็นของว่าง เริ่มตั้งแต่ลูกชิ้น ไส้กรอก ปูอัด เกี๊ยว กุ้งหิมะ หมึกหลอด ลูกชิ้นระเบิด ไปจนถึงกือโป๊ะ
ขวากลางล่าง – สำหรับหน้าบ้านฝั่งห้องแถวชั้นเดียวร้านนี้มีข้าวเกรียบกือโป๊ะ ส่วนอีกด้านเป็นไอศกรีมโยเกิร์ตพร้อมหน้าทอปปิ้งมากมาย เช่น มาร์ชแมลโลว์ คอร์นเฟลก เชอร์รี่ ลูกชิด แครกเกอร์ บุกเยลลี่ วุ้นใส ฯลฯ
ขวากลาง – แผงนี้ตั้งเต็นท์โดดเด่นอยู่ริมถนน โดยปรุงของยำล้วนๆและยังมีข้าวโพดคลุกเนยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่
ซ้ายล่าง – ผลไม้หายจากตลาดนัดไม่ได้เด็ดขาด วันนี้จึงมีแอปเปิล ส้ม ฝรั่ง สำไย มะม่วงมัน มะม่วงสุก และมะปรางมาเป็นของติดไม้ติดมือ
ขวาล่าง – เมื่อเดินมาถึงสามแยกที่สี่ บ้านแถวชั้นเดียวตรงข้ามสามแยกไปทางขวา(ที่จะไปออกสี่แยกที่สาม)ยังมีร้านน่าสนใจมาให้สำรวจปิดท้าย หลังนี้จำหน่ายเครื่องมือเครื่องใช้เยอะเลย จากภาพก็เริ่มจากหม้อหุงข้าว เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กระติกน้ำร้อน แก้วพลาสติกใส เตารีด หัวปลั๊ก สายไฟ ข้อต่อพีวีซี ถุงใส่ของ ถุงมือชีวภาพ ยางรัดของ โคมไฟ หัวต่อก๊อกน้ำใบพัด ไปจนถึงสายเอวี