มัสยิดกลางปัตตานีเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในไทย ตั้งอยู่หน้าถนนยะรัง เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2497 ออกแบบโดยนายประสิทธิผล ม่วงเขียว สถาปนิกกรมศาสนา โดยมีต้นแบบสถาปัยตยกรรมจากทัชมาฮาลของอินเดีย ซึ่งใช้เวลากว่า 9 ปีในการก่อสร้าง ตัวอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กสูงสองชั้น ภายในประดับด้วยหินอ่อน เมื่อเสร็จสมบูรณ์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 และตั้งชื่อว่า “มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี”

อาคารมัสยิดหินอ่อนแห่งนี้ตกแต่งได้อย่างวิจิตรงดงาม ตรงกลางมียอดโดมขนาดใหญ่ รวมทั้งโดมบริวาร 4 ทิศและหออะซานที่สูงเด่นอีก 4 ด้าน บริเวณหน้ามัสยิดยังมีสระน้ำสีเขียวรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนาอิสลามและพบปะประชาชน ณ มัสยิดกลางปัตตานีเป็นครั้งแรก ต่อมาในเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2536 ได้ทรงเยี่ยมเยียนมัสยิดแห่งนี้อีกครั้งและมีกระแสรับสั่งให้ดำเนินการปรับปรุงอาคารมัสยิดกลางปัตตานี จึงมีการประชุมวางแผนเพื่อขยายด้านข้างของตัวอาคารออกไปและสร้างหออะซานเพิ่มเป็นสี่หอ

ปัจจุบันมัสยิดกลางแห่งนี้เป็นที่ประกอบศาสนกิจสำคัญทางศาสนาอิสลาม รวมทั้งการทำละหมาดวันละ 5 ครั้งของชาวมุสลิม

ตั้งแต่เห็นมัสยิดเก่าแก่(ที่สร้างมานานหลายสิบปี)มากมาย มัสยิดที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่นึกได้ก็คือมัสยิดกลางของจังหวัดปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารมัสยิดหรือบรรยากาศหน้ามัสยิด ทุกอย่างออกแบบได้งดงาม จนใครๆก็บอกว่า มัสยิดแห่งนี้สวยที่สุดในประเทศไทย
บน – ตอนที่เดินเข้ามา แล้วเห็นภาพมัสยิดกลางปัตตานีอยู่เบื้องหน้า คำแรกที่คิดในใจคือ สวย คลาสสิก และสะอาดตา เราสามารถเห็นยอดโดมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางหลังคาและโดมบริวารอย่างชัดเจน รวมทั้งหออะซานที่สร้างสูงตระหง่านเป็นหอคอยทั้งสี่ด้านด้วย ขณะเดียวกัน ต้นอินทผาลัมทั้งสองฟากของทางเดินก็เสริมให้ทิวทัศน์ชวนมองเข้าไปอีก

เดินชมรอบๆอาคารมัสยิดกลางกัน
ซ้ายบน – บรรยากาศหน้าอาคารมัสยิดในระยะใกล้เข้ามา เราจะเห็นทั้งโดม หออะซาน บันไดทางเข้ามัสยิด และสระน้ำหน้าอาคารมัสยิด
ซ้ายกลาง – จากหน้ามัสยิด ลองมองไปทางซ้าย อาคารที่เห็นมุมไกลคือ ที่อาบน้ำละหมาดของบุรุษ ซึ่งก่อสร้างได้สวยงาม ส่วนสวนที่รายล้อมก็ดูร่มรื่นไปทุกจุด
ขวาบน – จากหน้ามัสยิดเช่นกัน แต่มองไปทางขวาบ้าง อาคารที่เห็นมุมไกลคือ ที่อาบน้ำละหมาดของสตรี ฟากนี้ก็สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ซ้ายล่าง – และจากหน้ามัสยิดอีกครั้ง แต่ให้มองไปด้านหน้า เราจะเห็นสระน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่และบ่อน้ำพุเป็นสีเขียว ถัดไปเป็นสวนหย่อมทั้งสองฝั่งที่ขนาบข้างทางเดินเข้ามัสยิด แต่ถ้าเดินออกไปอีก ก็เป็นถนนยะรังหน้ามัสยิด โดยมีบ้านเรือนประชาชนอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
ขวาล่าง – ภาพนี้ก็คือ โถงทำละหมาดสำหรับฝ่ายชาย ซึ่งเราจะเห็นมิห์รอบอยู่เบื้องหน้าและชั้นสอง(ที่เป็นตำแหน่งของโดมใหญ่)อยู่ตรงกลาง ขณะเดียวกัน ยังมีโถงทำละหมาดสำหรับฝ่ายหญิงซึ่งอยู่หลังกำแพงทางซ้าย
ล่าง – ตกกลางคืนมีอีกหนึ่งอิริยบทของมัสยิดกลางปัตตานีที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ ไฟสปอตไลต์ที่ทำให้มัสยิดกลางปัตตานีมีเสน่ห์และงดงามขึ้นไปอีก (จากภาพ นอกจากเป็นศูนย์รวมจิตใจแล้ว ยังเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของชาวปัตตานีด้วย เพราะช่วงเย็นจะมีครอบครัว เด็กเล็ก เด็กโต และวัยรุ่นมานั่งกินลมชมวิวที่หน้ามัสยิดแห่งนี้)