มอหินขาว

คำอธิบาย


มอหินขาวตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะลาดเอียง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800-840 เมตร

ตามเส้นทางถนนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้จะมีแหล่งท่องเที่ยวของกลุ่มหินทั้งหมด 3 กลุ่มและ 1 จุดชมวิวดังนี้

- จุดแรกคือกลุ่มเสาหินห้าแท่ง กลุ่มหินเหล่านี้คาดว่า ก่อกำเนิดในยุคเทอร์เซียรีเมื่อประมาณ 65 ล้านปีมาแล้ว ในขณะนั้นแผ่นเปลือกโลกทวีปอินเดียชนกับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ทำให้เกิดเป็นเทือกเขาหิมาลัยและผลจากการชนดังกล่าวยังทำให้เกิดการยกตัวขึ้นเป็นที่ราบสูงโคราช โดยมีเทือกเขาภูพานแบ่งที่ราบสูงโคราชเป็นสองแอ่งคือ แอ่งสกลนครและแอ่งโคราช ผลจากการที่แผ่นดินยกตัวสูงขึ้นนั้น จึงกลายเป็นภูเขา ทำให้หินเกิดการโค้งงอและเกิดรอยแตก จากนั้นกระบวนการทางธรณีวิทยาก็ค่อยๆเริ่มกัดเซาะพื้นที่ให้กลายเป็นสภาพราบหรือเกือบราบ ซึ่งอัตราการกัดเซาะจะแตกต่างกันไป หินที่มีรอยแตกและการเชื่อมประสานไม่ดี ก็จะผุพังก่อนและถูกกัดเซาะได้ง่าย ส่วนชั้นหินที่แข็งกว่าจะคงเหลือเป็นช่วงๆ จนกลายเป็นแท่งหินโดดๆหลายก้อน

สำหรับขั้นตอนการเกิดหินห้าแท่งนี้ จุดเริ่มต้นคือชั้นหินได้รับอิทธิพลจากแรงภายนอกมากระทำหรือเกิดจากการขยายตัวและหดตัว เมื่อถูกอากาศร้อนในเวลากลางวันและอากาศเย็นในเวลากลางคืน ชั้นหินก็เกิดรอยแตกและรอยแยก โดยขนาดของรอยแตกขึ้นอยู่กับแรงที่มากระทำ แนวแตกมักเป็นแนวที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนตามธรรมชาติในระดับต่ำๆ ในเวลาต่อมา แนวเหล่านี้ได้กลายเป็นทางน้ำไหล ก่อให้เกิดการกัดเซาะทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ ส่วนที่ถูกกัดเซาะจะโดนทำลายและพัดพาไป ส่วนที่แข็งก็คงเหลืออยู่ จึงเกิดเป็นหินห้าแท่งนี้

- จุดต่อไปคือกลุ่มหินโขลงช้าง จุดนี้มีลักษณะการกัดกร่อนที่น่าสนใจหลายรูปแบบ เช่น การแทรกตัวของวัสดุในสภาพสารละลาย แล้วไปแข็งตัวตามช่องว่างหรือรอยแตกของหิน การเกิดชั้นเฉียงระดับ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำหรือลม ทำให้มีผลต่อทิศทางจากตกจมของตะกอนหินทราย จึงพบแนวชั้นหินย่อยๆมีแนวเฉียงตัดกับแนวปกติไปมา สำหรับเหตุผลที่เรียกกลุ่มหินโขลงช้าง ก็เพราะว่าหากมองจากมุมสูง จะคล้ายกับหลังช้างหลายๆเชือก จึงเรียกว่า“หินโขลงช้าง”

- จุดต่อมาคือกลุ่มหินต้นไทร ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาในสภาพสารละลาย แล้วไปแข็งตัวตามช่องว่างรอยแตกของหิน และยังมีการกัดกร่อนแบบแตกระแหงโคลน ซึ่งเกิดจากดินซึ่งสูญเสียปริมาณน้ำ จนเกิดการแตกระแหง เมื่อกลายสภาพเป็นหินตะกอน รอยดังกล่าวยังคงปรากฏอยู่นั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่เรียกกลุ่มหินต้นไทร ก็เนื่องจากมีต้นไทรขึ้นปกคลุมด้านบนของก้อนหิน มีลักษณะแปลกตา จึงเรียกว่า“หินต้นไทร”

- และจุดสุดท้ายคือผาหัวนาค จุดนี้เป็นหน้าผาสูงชันที่ทอดตัวยาวไปตามเทือกเขาภูแลนคา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 905 เมตร อากาศบนนี้เย็นสบายตลอดทั้งปี ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเห็นวิวทิวทัศน์ได้สุดลูกหูลูกตา และด้วยลักษณะที่เป็นหน้าผายื่นออกมา ทำให้จินตนาการหรือเปรียบเทียบหน้าผาส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายหัวงูใหญ่หรือหัวของพญานาคราช จึงเรียกกันต่อๆมาว่า“ผาหัวนาค”

นอกจากเส้นทางตามปกติของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีกลุ่มหินอีกจุด ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นทางนักท่องเที่ยวออกไป ทั้งนี้เส้นทางเข้าไปยังเป็นทางธรรมชาติขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่มีป้ายบอกเส้นทาง แต่เมื่อเข้ามาถึงแล้ว นักท่องเที่ยวจะพบกับลานหินที่เกิดจากการกัดเซาะเป็นรูปร่างต่างๆจำนวนมากและกระจายตัวเป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งยังมีหน้าผาชมวิวด้วย จุดนี้คือ“สวนหินล้านปี”


เมื่อมาเห็นกับตา ก็ไม่ผิดหวังกับกองหินประหลาดของมอหินขาวเพราะสวยแปลกตาและมีเสน่ห์หลายแบบให้เราได้จินตนาการกัน ที่สำคัญ กระแสลมบนภูเขาดีมาก ลมแรงๆปะทะมาจากทุกทิศทางตลอดเวลา ยิ่งใครมาช่วงหน้าหนาว ลมเย็นๆยามเช้าอาจเผลอทำให้สั่นเทาเหมือนที่ทีมงานกำลังสะดุ้งอยู่ตอนนี้
- เรามาตามรอยเส้นทางท่องเที่ยวกัน
บน – จุดแรกก็คือเสาหินห้าแท่ง ในบรรดากลุ่มหินของมอหินขาวทั้งหมด บริเวณนี้ถือเป็นไฮไลต์เนื่องจากแต่ละแท่งสูงชะลูดและโดดเด่นกว่าใครเพื่อน
ซ้ายบน – ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินชมเสาหินห้าแท่งไปเรื่อยๆ เริ่มที่มุมนี้ก่อน
ขวาบน – หินแท่งนี้มองไปมองมาก็คล้ายราชินีเอเลียนอยู่เหมือนกัน ปากตาจมูกคางคอมาครบ
ซ้ายล่าง – เดินอ้อมมาชมอีกด้านหนึ่งกัน
ขวาล่าง – นักท่องเที่ยวต่างไม่พลาดกับการถ่ายรูปคู่เสาหินห้าแท่งนี้



ไปเก็บตกเสาหินห้าแท่งอีกเล็กน้อย
ซ้ายบน – สรีระของเสาหินห้าแท่งมีเนื้อหาเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ ชั้นแข็งก็คือชั้นที่ปิดทับอยู่ด้านบน ทำหน้าที่คล้ายหลังคาให้แท่งหินคงทน ชั้นอ่อนคือชั้นที่มีการกัดเซาะมากว่าส่วนบนและมีชั้นเฉียงระดับแทรก ส่วนชั้นรอยแตกร้าวคือ รอยแตกของแท่งหินในแนวระดับ
- จากเสาหินห้าแท่ง เราเดินทางตามถนนคอนกรีตสู่กลุ่มหินโขลงช้างต่อไป
ขวาบน – รูปทรงหินบริเวณนี้จะไม่เป็นแท่ง แต่มีลักษณะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่มีโครงสร้างเหมือนกระโจมหรือโดม
ขวากลางบน – กลุ่มหินในมุมแรก คล้ายดงเห็ดเลย
ซ้ายล่าง – หินก้อนนี้ดูๆไปก็คล้ายหัวของสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างที่มีเขาสองข้าง
ขวากลางล่าง – จะมองเหมือนกระโจมหรือจอมปลวกขนาดใหญ่ก็ได้
ขวาล่าง – ทีมงานขอตั้งชื่อว่า“หินสามเกลอ”



ยังอยู่ในกลุ่มหินโขลงช้างอีกสักครู่
บน – และภาพนี้ก็คือมุมกว้างของกลุ่มหินโขลงช้าง เหมือนใครมาสร้างกระโจมขึ้นเป็นดงเลย
- ต่อไปก็คือ กลุ่มหินต้นไทร
ซ้ายบน – กลุ่มหินต้นไทรจะมีพื้นที่ไม่กว้างนักเมื่อเทียบกับหินสองกลุ่มแรก (จากภาพ บริเวณนี้คือภาพรวมของกลุ่มหินต้นไทร)
ขวาบน – หินก้อนนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากของ“การกัดกร่อนแบบแตกระแหงโคลน”
ซ้ายกลาง – หินในมุมอื่นๆ
ขวากลาง – หินก้อนนี้ขึ้นไปตั้งให้ดูเท่ๆเข้าไว้
- ต่อไปก็เข้าสู่ปลายทางของถนนคอนกรีต นั่นคือ ผาหัวนาค
ซ้ายล่าง – บรรยากาศของผาหัวนาคด้านซ้าย
ขวาล่าง – บรรยากาศของผาหัวนาคด้านขวา




ยังอยู่ที่ผาหัวนาคอีกหน่อย
บน – เมื่อยืนอยู่บนผาหัวนาค แล้วมองไปไกลสุดสายตา เราจะได้วิวทิวทัศน์แบบนี้ (จากภาพ จุดชมวิวนี้ทำให้เราเห็นทั้งอำเภอภูเขียวและอำเภอเกษตรสมบูรณ์)
- และอย่างที่เคยเกริ่นว่า นอกจากกลุ่มหินตามเส้นทางของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีเส้นทางธรรมชาติที่จะนำเราไปสู่อีกหนึ่งกลุ่มหินด้วย เพียงแต่การเข้าถึงไม่เอื้ออำนวยหรือเป็นใจให้รถทั่วไปเข้าไปได้ เนื่องจากทางเป็นหลุมเป็นบ่อ บางจุดก็แตกระแหง บางจุดก็ค่อนข้างแคบ แต่เมื่อบุกบั่นมาถึง กลับเป็นสถานที่ที่ต้องจารึกกับความมหัศจรรย์ทันที ที่นี่คือ“สวนหินล้านปี”
กลาง – ตอนนี้ทีมงานอยู่บริเวณสวนหินล้านปีแล้ว เมื่อมองจากมุมไกล เราจะเห็นกำแพงหินยาวเป็นเทือกเถาเหล่ากอหลบฉากอยู่ด้านหลังต้นไม้ เป็นภาพที่อะเมสซิ่งไทยแลนด์จริงๆ
ล่าง – ขอเข้ามาดูใกล้ๆให้ทุกคนได้เห็นกัน กลุ่มหินล้านปีขึ้นติดๆกันมากมายจนเป็นป้อมปราการแผ่ไพศาล
- ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้าไปสัมผัสกลุ่มหินทีละมุมกัน
ซ้าย – เราเข้ามาเก็บรายละเอียดปลีกย่อยของกำแพงหินดีกว่า
ขวา – กำแพงหินทอดตัวเป็นกลุ่มกระจายไปทุกที่



 

ยลโฉมความงดงามของกลุ่มหินล้านปีให้หายสงสัย
ซ้ายบน – กำแพงหินขนาดใหญ่
ขวาบน – ภาพธรณีวิทยาของหินล้านปีบางช่วงที่ไต่ระดับขึ้นไป
ซ้ายกลาง – เสาหินบริเวณนี้คล้ายกับแกรนด์แคนยอนไม่มีผิด บรรยากาศชวนพิศวงและน่าค้นหาดีแท้
ขวากลาง – เดินไปเดินมา ก็เจอเรื่องน่ารักๆจนได้ หินด้านบนเหมือนชามปากบิ่นวางอยู่บนโต๊ะไม่มีผิด
ซ้ายล่าง -
บริเวณกลุ่มหินล้านปีก็มีจุดชมวิวเช่นกัน
- นอกจากกลุ่มหินต่างๆทั้งหมดแล้ว ร้านค้าบนมอหินขาวก็มีด้วย
ขวาล่าง - หลักๆจะมีอยู่สองจุดคือ จุดแรกอยู่ติดกับสำนักงานการท่องเที่ยวซึ่งสามารถเดินมาจากเสาหินห้าแท่งได้ จุดนี้มีลักษณะเป็นเต็นท์พับจำหน่ายสินค้าติดกันหลายๆหลัง ภายในเต็นต์มีแต่ของกินทั้งหมด ขณะที่อีกจุดมีทั้งซุ้มสินค้าและร้านค้าใกล้กับจุดชมวิวผาหัวนาค ทั้งสองเจ้านี้จะอยู่ห่างกัน ซึ่งมีทั้งของกินเล่น อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าที่ระลึก (จากภาพ บนคือ โซนเต็นต์พับจุดแรก ล่างคือ ร้านค้าใกล้กับจุดชมวิวผาหัวขาด)

จุดที่หนึ่ง – ขนมขบเคี้ยวมีเบนโตะ(รสทรงเครื่องและรสปรุงรส) สแน็กแจ๊กรสดั้งเดิม โปเต้ โก๋แก่(รสต่างคือ กาแฟ อบรสธรรมชาติ ชาเขียว เคลือบรสกุ้ง และอบเกลือ) เอสบีรสดั้งเดิม อาริงาโตรสสามรส โตโร่รสดั้งเดิม ไดโนพาร์กรสซีฟู้ด ปาปริก้า ปาร์ตี้รสมันม่วง ฮานามิรสชาเขียว ตะวัน(รสลาบแซ่บและรสกุ้งกรอบ) เอฟเอฟรสพริกหยวก ไก่ย่าง(รสใบเตยและรสดั้งเดิม) คอนเน่ เทสโต้(รสต่างๆคือ ซอลธ์และซาวร์ ลาบแซ่บ บาร์บีคิว ไข่เค็มทรงเครื่อง ปลาสามรส และสาหร่ายซอสสไตล์เกาหลี) เลย์(รสต่างๆคือ ไข่เค็ม มันฝรั่งแท้ เอ็กซ์ตราบาร์บีคิว หมึกย่างฮอตชิลลี่ โนริสาหร่าย สแต็กส์ซาวครีมและหัวหอม ปูผัดผงกะหรี่ และซาวครีมและหัวหอม) และจูปาจุ๊ปส์ ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคัพมียำยำ(รสหมูสับและรสต้มยำกุ้งน้ำข้น) มาม่า(รสต่างๆคือ หมูสับ ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน เย็นตาโฟต้มยำหม้อไฟ และต้มยำกุ้งน้ำข้น) ไวไวควิก(รสต้มยำมันกุ้งและรสต้มยำพริกเผา) รวมทั้งคนอร์คัพโจ๊กรสไก่ เครื่องดื่มมีเนสกาแฟซอง(พร้อมน้ำร้อน) เอ็มร้อยห้าสิบ แลคตาซอยสูตรออริจินอลรสหวาน น้ำดื่มสิงห์ น้ำดื่มคริสตัล และน้ำอัดลม(ที่มีขวดใหญ่พลาสติกและขวดเล็กแก้ว)ดังนี้ แฟนต้า(น้ำแดง น้ำส้ม น้ำเขียว) โค้ก สไปรท์ และเป๊ปซี่ ของแห้งของชำมีน้ำปลาและน้ำมันพืชโอลีฟ หมวดของใช้มีแปรงสีฟัน สบู่นกแก้ว หมวกแฟชั่น หมวกไหมพรม หมวกแก๊ป ไฟฉาย ผ้าคาดผมการ์ตูน และทิชชู่ ด้านบริการมีให้เช่าเต็นต์เล็ก เต็นต์ใหญ่ หมอน เสื่อ และผ้าห่ม
จุดที่สอง – อาหารมีกะเพราหมู(หรือไก่) ข้าวหมูทอด ข้าวผัดหมู ข้าวไข่เจียว ผัดมาม่า และผัดซีอิ๊ว สำหรับเครื่องดื่มปรุงที่ร้าน หมวดร้อนและเย็นมีกาแฟเนส กาแฟโบราณ โอวัลติน ชาเขียว และโกโก้ หมวดทั่วไปมีชาเย็น ชานมร้อน นมเย็น แดงโซดา ชามะนาว โอเลี้ยง ชาเย็น ชามะนาว นมเย็น น้ำแดงโซดา และนมสดเย็น เครื่องดื่มอื่นๆยังมีเอ็มร้อยห้าสิบ น้ำดื่มคริสตัล และโค้ก ขนมขบเคี้ยวมีเลย์(รสต่างๆคือ โนริสาหร่าย มันฝรั่งแท้ กะเพรากรอบ และไข่เค็ม) โปเต้ ปาปริก้า โก๋แก่รสกะทิ และเทสโต้รสบาร์บีคิว อาหารเติมน้ำร้อนมีคนอร์คัพโจ๊กรสไก่และมาม่าคัพ(รสต้มยำกุ้งและรสหมูสับ) ของใช้มีแป้งเด็กแคร์ แชมพู ยาสีฟัน สบู่ และทิชชู่ สินค้าที่ระลึกมีหมวกไหมพรม แม็กเน็ต เสื้อที่ระลึกมอหินขาวแขนสั้นและแขนยาว หมวกแฟชั่น โปสการ์ด ไปจนถึงผ้าพันคอเป็นผืนและแบบถัก  

TODAY THIS MONTH TOTAL
490 5427 297819
Copyright : 2018 KarnDernTang.com ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาในเว็บไซต์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทรับทำเว็บไซต์ Design By cw.in.th

Scroll To Top