(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")

ถนนคนเดินตรอกโรงยาเริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2553 บริเวณตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้งเนื่องจากตรอกโรงยาแห่งนี้มีประวัติความเป็นมา ความเป็นอยู่ที่หลากหลาย ศิลปวัฒนธรรม และการผสมผสานวิถีชีวิตไทย-จีนที่กลมกลืนนับจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน จึงมีการจัดถนนคนเดินขึ้นทุกวันเสาร์ตั้งแต่บ่ายสามโมงจนถึงสองทุ่ม

สำหรับเส้นทางของถนนคนเดินจะเป็นเหมือนอักษรตัวที นั่นคือเส้นทางที่หนึ่งคือ จากถนนท่าช้าง แล้วเลี้ยวเข้าถนนราษฏร์อุทิศ 3 ซึ่งจุดที่เลี้ยวเข้ามานี้ก็คือตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้งที่มีบ้านไม้ตลอดทั้งสองฝั่งและเป็นเส้นทางไฮไลต์ตั้งแต่ปากทางเข้ามาตามถนนราษฏร์อุทิศ 3 ไปจนถึงสี่แยกที่บรรจบกับถนนมหาราช 3 ส่วนเส้นทางที่สองคือจากถนนศรีอุทัย แล้วเลี้ยวเข้ามาบนถนนมหาราช 3 โดยถนนคนเดินจะเริ่มจากปากทางที่เลี้ยวเข้ามา แล้วยาวไปตามถนนมหาราช 3 จนไปบรรจบกับถนนราษฏร์อุทิศ 3 ที่สี่แยก ซึ่งถนนมหาราช 3 จะเป็นบ้านตึกทั้งสองฟาก เมื่อมาเจอสี่แยกแล้ว ถ้าเลี้ยวซ้ายไป ก็คือตรอกโรงยาของเส้นทางที่หนึ่ง แต่ถ้าเดินตรงเลยสี่แยกขึ้นไปตามถนนมหาราช 3 จะไม่มีถนนคนเดินใดๆแล้ว และถ้าเลี้ยวขวาจากสี่แยกนี้ไป (หรือถ้ามาจากตรอกโรงยา ก็เดินตรงเลยสี่แยกขึ้นไปเลย) ก็คือเส้นทางที่สามบนถนนราษฎร์อุทิศ 2 ที่จะกล่าวต่อไป ซึ่งจากถนนชัยพฤกษ์เข้ามาบนถนนราษฏร์อุทิศ 2 จะยังไม่มีถนนคนเดินใดๆ แต่เมื่อถนนราษฏร์อุทิศ 2 มาบรรจบกับซอยราษฎร์อุทิศ 8 ที่มาจากทางขวา ถ้าเรายังเดินตรงต่อไป ถนนคนเดินจะเริ่มต้นจากสามแยกนี้ขึ้นไปตามถนนราษฎร์อุทิศ 2 ทันที สำหรับฟากนี้มีบ้านเดี่ยวและตึกแถวปะปนกันและยาวต่อเนื่องไปจนพบกับสี่แยกถนนคนเดินนั่นเอง

ส่วนการจัดเรียงแผงของทั้งสามเส้นทางจะเหมือนกันคือ แผงลอยหลักแบ่งเป็นสองแถวอยู่กลางถนน แต่ละแถวหันหน้าแผงเข้าหาช่องทางเดินซ้ายและขวาของตนเอง ขณะที่บ้านที่เปิดหน้าร้านนั้น เส้นทางที่หนึ่งของตรอกโรงยามีหน้าร้านจำหน่ายสินค้ามากที่สุด ลองมาคือเส้นทางที่สอง ส่วนเส้นทางที่สามมีหน้าร้านน้อยกว่าใคร ขณะเดียวกัน เส้นทางที่หนึ่งจะมีแผงลอยบนฟุตบาทหรือตามหน้าบ้านมากกว่าใครเช่นกัน ทำให้แต่ละช่องทางเดินซ้ายและขวาบนถนนราษฎร์อุทิศ 3 มีแผงลอยทั้งซ้ายและขวานั่นเอง เส้นทางที่สองมีแผงลอยหน้าบ้านรองลงมา และเส้นทางที่สามมีน้อยกว่าใคร

สำหรับประเภทแผงลอยของถนนคนเดินแห่งนี้มีโต๊ะเหล็ก โต๊ะพับ คีออส รถเข็น ชั้นวาง โต๊ะไม้ ราวแขวน ผ้าปู ผ้าบลูชีท ลังพลาสติก โต๊ะเตี้ย ตะกร้า ถังน้ำ ลังพลาสติก และขาเตาแก๊ส โดยสินค้าในทุกช่องทางเดิน ของกินจะอยู่ตั้งแต่ปากทางเข้ามาในทุกเส้นทาง และเมื่อพ้นกลางทางไป จึงเริ่มเปลี่ยนเป็นของใช้จนถึงสี่แยก ยกเว้นบนถนนราษฎร์อุทิศ 3 ของตรอกโรงยาจะมีของกินเลยครึ่งทางและมีของกินมากกว่าทุกเส้นทางเดิน

สินค้าทั้งหมดในช่องทางเดินทั้งซ้ายและขวาของตรอกโรงยาบนถนนราษฎร์อุทิศ 3 มีดังนี้ ของกินเล่น ของทอด อาหารเหนือ อาหารญี่ปุ่น ผักสด สลัดผัก ขนมท้องถิ่น ขนมไทย ผลไม้เชื่อม เสื้อผ้าชายหญิง เครื่องสำอาง งานแฮนด์เมด เสื้อผ้าพื้นเมือง ชากาแฟ น้ำอัดลม กระเป๋า พระเครื่อง ของปิ้งย่าง ขนมหวาน เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาหารชาวจีน ผลไม้ ขนมปัง ไอศกรีม กับข้าว อาหารอิตาเลียน เครื่องนอน งานเย็บปัก ของเล่นเด็ก พระเครื่อง น้ำผลไม้ปั่นและคั้น เบเกอรี่ เครื่องประดับสตรี น้ำพริก เครื่องแต่งกายสตรี เสื้อที่ระลึกจังหวัดอุทัยธานี ผลิตภัณฑ์จากไม้ ของเก่า หนังสือ งานบริการ เสื้อผ้าเด็ก ขนมจีนน้ำยา ผลิตภัณฑ์จากพืช ของแห้ง ผลไม้อบแห้ง ของหมักดอง ของต้ม ข้าวต้มกุ๊ย มุมเด็ก ของกินยามเช้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิว สมุนไพร และอุปกรณ์ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ต่อไปก็คือสินค้าทั้งหมดของช่องทางเดินทั้งซ้ายและขวาบนถนนมหาราช 3 ซึ่งมีของกินเล่น ขนมหวาน ผักสด ผักพื้นบ้าน ของฝาก ของทอด ขนมไทย เบเกอรี่ ผลไม้ ผลไม้แช่อิ่ม ของยำ อาหารญี่ปุ่น ของแห้ง น้ำพริก อาหารท้องถิ่น เสื้อผ้าพื้นเมือง เครื่องดื่ม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ตุ๊กตา รองเท้า ขนมของชาวจีน ขนมจีนน้ำยา เสื้อผ้าชายหญิง เครื่องประดับสตรี ของเล่นเด็ก พืชไร่ เสื้อที่ระลึกจังหวัดอุทัยธานี เสื้อผ้าเด็ก ต้นไม้ เครื่องนอน งานฝีมือ อาหารอีสาน ของปิ้งย่าง ชุดชั้นใน น้ำหอม ผลไม้อบแห้ง ของกินและของใช้นำเข้าจากต่างประเทศ เครื่องเขียน สายตา ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิว ของกินเล่นท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ทำจากไม้ งานแฮนด์เมด ของตกแต่ง และกระเป๋า

ส่วนเส้นทางเดินที่สามทั้งซ้ายและขวาบนถนนราษฏร์อุทิศ 2 มีสินค้าต่อไปนี้ ขนมไทย ของกินเล่น ของปิ้งย่าง เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ปั่นและคั้น ของทอด อาหารตามสั่ง กับข้าว อาหารท้องถิ่น ของแห้ง ผักสด พืชไร่ ของยำ เสื้อผ้าชายหญิง ผลไม้ กระเป๋า รองเท้า เครื่องนอน เครื่องสำอาง ของเล่นเด็ก อาหารอีสาน ผลไม้ดองเชื่อมและแช่อิ่ม เครื่องประดับชายหญิง เครื่องแต่งกายชายหญิง แมลงทอด ขนมปัง เบเกอรี่ ต้นไม้ อุปกรณ์การปลูกต้นไม้ เครื่องครัว ของใช้ในบ้าน และเสื้อผ้าเด็ก

ในปีแรกของถนนคนเดินตรอกโรงยา แผงลอยต่างๆจะอยู่บนถนนราษฎร์อุทิศ 3 ของตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้งเท่านั้น แต่ด้วยกระแสติดลมบน ถนนมหาราช 3 ก็ตามมา จนในที่สุด ถนนราษฎร์อุทิศ 2 ก็คือน้องใหม่ล่าสุด และตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้งแห่งนี้เองที่พลิกให้อำเภอเมืองเงียบๆกลายเป็นจุดเช็กอินขึ้นมาทันใด
บน – บรรยากาศบนถนนราษฎร์อุทิศ 3 ของตรอกโรงยาเป็นโซนเฮฮาปาร์ตี้ของพ่อค้าแม่ขายและนักท่องเที่ยวที่แห่แหนมาช้อปชิมมากที่สุด เนื่องจากเป็นถนนริเริ่มก่อนใครเพื่อน หลายคนเลยคุ้นเคยดี แถมบ้านไม้ทั้งสองฟากก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวันวาน แต่วันวานที่ว่านั้นจะเป็นอะไร ทีมงานขอกระซิบแค่นี้ แล้วจะมาเล่าปิดท้าย แต่ตอนนี้อดใจกับของกินของใช้ไม่ไหวจริงๆ (จากภาพ เรากำลังอยู่บริเวณสี่แยกถนนคนเดิน แล้วมองไปยังถนนราษฎร์อุทิศ 3 ของตรอกโรงยา ส่วนตึกสีขาวมุมไกลสุดก็คือปากทางเข้าจากถนนท่าช้าง)
- ทีมงานขอเริ่มจากปากทางของถนนท่าช้างเข้ามา โดยเริ่มที่ช่องทางเดินซ้ายมือก่อน (หรือถ้าตามภาพ“บน”ก็คือช่องทางเดินขวามือ)
ซ้ายบน – พี่และป้าโต๊ะนี้ช่วยกันจำหน่ายไก่ต้มฟักมะนาวดอง ผัดเผ็ดปลาสวาย กะเพราหมูไข่เยี่ยวม้า ปลาผัดขึ้นฉ่าย แกงมะรุม และแกงส้มไข่ชะอม
ขวาบน – แม่ค้าสองคนตั้งแผงจำหน่ายอาหารเหนืออันได้แก่ แกงฮังเล ลาบหมู น้ำพริกอ่อง ตำขนุน และยำบักแปบ
ซ้ายกลาง – หน้าบ้านนี้ตั้งโต๊ะขายน้ำพริกหลากหลายรสชาติ เริ่มตั้งแต่น้ำพริกกุ้ง น้ำพริกปลาย่าง น้ำพริกแมงดา น้ำพริกเผาผัดกุ้ง น้ำพริกนรกปลาย่าง น้ำพริกขี้กา น้ำพริกลงเรือ รวมไปถึงปลาร้าหลน เต้าเจี้ยวหลน และมะขามผัด
ขวากลาง – ใครสนใจเกี๊ยวซ่าทอดน้ำ ให้มาล้อมวงหน้าร้านนี้
ซ้ายล่าง – ขนมเบื้องญวนแผงนี้มีแบบธรรมดาและแบบใส่ไข่ให้เลือก
ขวาล่าง – หมูสะเต๊ะบริเวณปากทางเข้าขายดีเทน้ำเทท่าจริงๆ

ความสุขกำลังรายล้อมอยู่รอบตัวเรา
ซ้ายบน – บ้านหลังนี้ทำข้าวเกรียบปากหม้ออยู่ โดยมีทั้งหมด 6 ไส้คือ กุยช่าย แคร์รอต เผือก หน่อไม้ ฟักทอง และไส้หวาน
ขวาบน – แม่ค้าชาวมุสลิมร้านนี้ขอเสนออาหารฮาลาลทั้งหมด เริ่มจากปลาไข่ทอด กุ้งทอด ไก่ทอด ปอเปี๊ยะทอด ขนมจีบไส้ไก่ รวมทั้งกะหรี่ปั๊บ(ที่มีไส้ไก่ เผือก ถั่ว และงา)
ซ้ายกลางบน – คนขายช่วยกันปรุงพิซซ่าแทบไม่ทันกับออเดอร์ หน้าต่างๆก็มีสโมกกี้เบคอน ซีฟู้ด และฮาวาเอียน
ขวากลางบน – เจ้านี้มีสองคนช่วยกันขาย สินค้าต่างๆร่ายเรียงมาตั้งแต่กุยช่ายทอด อาลัว ครองแครงกรอบ สัมปันนี ข้าวตู ขนมหัวผักกาด บ๊ะจ่าง ข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยาและหน้ากุ้ง ไปจนถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพดังนี้ อัญชัน ใบเตย จับเลี้ยง และกระเจี๊ยบพุทราจีน  
ซ้ายกลางล่าง – พี่ร้านนี้มีขนมไทยมาฝากอีกเซ็ต ใครชอบครองแครงกะทิสดโรยน้ำตาลงา บัวแก้วแปะก๊วย และข้าวฟ่างน้ำกะทิ ให้เร่เข้ามาแบบด่วนๆ
ขวากลางล่าง – เราแวะดื่มชากาแฟในบ้านสีพาสเทลหลังนี้ดีกว่า เมนูเครื่องดื่มมีกาแฟร้อนเย็น ชาร้อนเย็น โอวัลติน โอเลี้ยง ชาดำเย็น บ๊วย นมเย็น และน้ำผลไม้ปั่น
- เข้าสู่โหมดของใช้สักเล็กน้อย
ซ้ายล่าง – ลูกค้ากำลังห้อมล้อมแผงนี้อยู่ สินค้าหลักๆมีต่างหู ยางรัดผม โบว์รัดผม กิ๊บหนีบผม สร้อยข้อมือ และสร้อยคอไข่มุก
ขวาล่าง – สาวๆคนไหนชอบเสื้อผ้าเก๋ๆ เข้าบ้านหลังนี้ได้เลย

ยังอยู่ในช่องทางเดินซ้ายมืออีกสักแผง
ซ้ายบน – น้าไว้หนวดมุมนี้รับวาดภาพ ขณะเดียวกันก็แขวนเสื้อที่ระลึกอุทัยธานีบนประตูไม้หน้าบ้านหลังหนึ่งด้วย ทั้งหมดมีสามลายคือ ลายตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้ง ลายห้วยขาแข้ง และลายจังหวัดอุทัยธานี
- จากช่องทางเดินฝั่งซ้าย เราย้ายมาช่องทางเดินฝั่งขวาบ้าง
ขวาบน – ใครอยากอิ่มหนำสำราญ บ้านไม้หลังนี้มีโต๊ะเก้าอี้ในบ้านพร้อม หลักใหญ่ใจความก็คือ ข้าวต้มกุ๊ย สำหรับเครื่องเคียงมีโฉมหน้าดังนี้ ปลาลวก ปลานึ่ง ผัดพริกไก่ หมูอบ หมูแดง ผัดหนำเลี้ยบ พะโล้ ยำปลาสลิด ยำปลาเค็ม ยำไข่เค็ม ยำกุ้งแห้ง ยำไข่เยี่ยวม้า ยำกุนเชียง ยำผักกาดกระป๋อง ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืดมะระ ต้มจืดผักกาด ต้มยำปลา ต้มยำกุ้ง หมูกรอบ ผัดผักบุ้ง คะน้าปลาเค็ม ผัดหอยลาย คะน้าน้ำมันหอย และผัดกุยช่ายขาว
ซ้ายกลางบน – มุมนี้จำหน่ายน้ำยาแค่สองหม้อเท่านั้นคือ น้ำยาป่ากับน้ำยากะทิ ส่วนสูตรความโอชะในหม้อก็คือเนื้อปลาแรดและลูกชิ้น
ขวากลาง – ใครชอบคอหมูแดดเดียวทอดร้อนๆ มารวมพลพรรคได้ที่นี่
ซ้ายกลางล่าง – มุมนี้รับหน้าที่ยำโดยเฉพาะ สำรับที่โดดเด่นคือ ยำผักกูด ที่เหลือยังมียำเห็ดรวม ยำวุ้นเส้น ยำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และยำเส้นแก้ว
ซ้ายล่าง – คนขายวัยรุ่นมีไม้มากมายเสียบรอไว้แล้ว ใครพร้อมก็เชิญหยิบตามอัธยาศัย ส่วนรสชาติให้ลิ้มรสมีลูกชิ้นปลา ปลาเส้น หมูยอ ปลาเส้นทรงเครื่อง ไส้กรอกไก่ ลูกชิ้นหมู และหมูกระเทียมพริกไทยดำ ขณะที่ถาดแตงกวาหั่นชิ้นและกะหล่ำปลีซอยด้านข้างเป็นกับแกล้มให้คีบตามสะดวก
ขวาล่าง – ป้าร้านนี้จัดแผงได้ยาวไม่แพ้ใคร สำหรับข้าวของที่ออกสู่สายตาประชาชนครั้งนี้มีพุทราแห้ง มะตูมแห้ง ปลาแดงย่าง ปลาป่น กลอยแห้ง ปลาสร้อยย่าง มะตูมเชื่อมแห้ง มะกรูด มะขามเปียก และผลส้มเช้งแกะเปลือกใส่ถุง

โซนตรอกโรงยามีอะไรให้ลั้ลลาไม่หยุดจริงๆ
ซ้ายบน – แม่ค้าโต๊ะนี้ขอนำขนมไทยฝีมือตนเองออกท่องยุทธจักรบ้าง ถาดเหลี่ยมด้านบนคือขนมต้ม สีเหลืองมุมไกลคือ ขนมฟักทอง สีม่วงคือ ขนมเผือก ถัดเข้ามาคือขนมกล้วย ส่วนใกล้สุดคือ ลูกชุบ
ขวาบน – เบเกอรี่ร้านนี้ยกทัพมาเสริฟความหวานกันถึงที่ เริ่มตั้งแต่เอแคร์ เค้กกล้วยหอม โรลใบเตย โรลฝอยทองและลูกเกด เค้กช็อกโกแลต เค้กสตรอว์เบอร์รี เค้กใบเตย เค้กกาแฟ เค้กมะพร้าว เค้กผลไม้ บราวนี่ และมาม่อนเค้ก
ซ้ายกลางบน – แผงนี้มีเฉาก๊วยโบราณและเฉาก๊วยนมสดมาให้ตัดสินใจ
ขวากลางบน – น้ำสมุนไพรมัดอยู่ในถุงที่หน้าบ้านเรียบร้อย ถุงไกลคือน้ำใบหม่อนบวกถั่วดาวอินและใบเตย ถุงกลางคือน้ำหล่อฮั้งก้วย และถุงใกล้ก็คือน้ำเก๊กฮวยบวกหญ้าหวานและใบเตย
- ไปดูของใช้กัน
ซ้ายกลางล่าง – เสื้อกีฬาและถุงเท้ากันลื่นเป็นหน้าที่ของแผงนี้
ขวากลางล่าง – จุดเด่นของร้านนี้คือ ไม้ตาลดัดขาแก้ปวด ที่เหลือยังมีที่ยืดนิ้วล็อก ลูกประคบ และกะลาคลายเส้น (จากภาพ ป้าคนขายกำลังถ่ายทอดสดให้เห็นว่า ไม้ตาลสามารถดัดขาแก้ปวดได้อย่างไร)
ซ้ายล่าง – พระเครื่องก็มาให้เซียนพระยลโฉมเช่นกัน
ขวาล่าง – ทิ้งท้ายถนนตรอกโรงยาด้วยบ้านที่เปิดร้านจำหน่ายขนมโบราณ ของเล่นโบราณ และของเล่นทั่วไป เช่น บันไดงู ไข่โหล ขนมขอนไม้ ลูกข่าง ตุ๊กตากระดาษ ไข่ไดโนเสาร์ กังหันลูกอม ดาบยืดหดได้ หมากเก็บ ง่ามยิงนกของเล่น ไข่ขี้เกี้ยม เกมเลื่อนตัวเลข หมากฝรั่งบุหรี่ ไม้บรรทัดเรขาคณิต ผงซ่าโค้ก บ๊วยแผ่น แบบเรียนคัดไทย ปิ่นโตของเล่น ฯลฯ

เข้าสู่ถนนมหาราช 3 ต่อ ขอเริ่มจากช่องทางเดินซ้ายที่มาจากถนนศรีอุทัยก่อน
ซ้ายบน – ผู้คนยังคงจับจ่ายและช้อปอย่างสนุก
ขวาบน – เห็นพ่อค้าร้านนี้ตำแล้ว เมื่อยมือแทนจริงๆ ลูกค้าสั่งกันไม่มีทีท่าว่าจะเบรก โดยเมนูมีตำทะเล ตำเกาเหลาทะเล ตำหอยแครง ตำปูม้า ตำกุ้งสด ตำปูปลาร้า ตำไทย ตำป่า ตำหมูยอ ตำข้าวโพด ตำหอยดอง ตำซั่ว ตำแตง และตำไหลบัว
ซ้ายกลางบน – หอยครกสีสันฉูดฉาดก็ร่วมก๊วนในโซนนี้
ขวากลางบน – น้องร้านนี้มีข้าวโพดทรงเครื่องทอดกับทอดมันปลากรายมาฝาก
ซ้ายกลางล่าง – แม่ค้าปาท่องโก๋พันเกลียวมีอยู่สองเวอร์ชั่นคือยัดไส้กรอกหรือยอปูและไม่มีไส้ใดๆ (จากภาพ แม่ค้าทำเองคนเดียวหมด มือไม้เลยชุลมุนอย่างที่เห็น)
ขวากลางล่าง – ผลไม้หั่นชิ้นสดๆรออยู่ที่แผงนี้แล้ว เริ่มตั้งแต่มะละกอ แตงโม สับปะรด รวมทั้งมะขามเทศ
ซ้ายล่าง – น้องคนนี้จำหน่ายน้ำหอมมากมายหลายกลิ่นเลย
ขวาล่าง – ก่อนจะข้ามไปอีกฟาก ขอทิ้งท้ายช่องทางเดินนี้ด้วยแผงยกทรง กางเกงใน และกางเกงซับในของสาวๆ

เรามาอีกฟากหนึ่งบนถนนมหาราช 3 กัน
ซ้ายบน – ผู้คนฝั่งนี้คลาคล่ำเช่นเคย ไปดูสิว่าเขากำลังสนใจอะไรอยู่
ขวาบน – ขอเริ่มด้วยข้าวเกรียบธัญพืชดีกว่า ซึ่งมีทั้งหมด 5 รสชาติคือ ฟักทอง มัน เผือก ข้าวโพด และไรส์เบอร์รี
ซ้ายกลางบน – แม่ค้าเจ้านี้จำหน่ายกุยช่าย ซึ่งมีหลายไส้ให้เลือกคือ มันแกว กุยช่าย เผือก ผักรวม มันม่วง เห็ดหอม และหน่อไม้
ขวากลาง – เดินมาเจอแผงนี้พอดี ข้าวของมีให้เลือกหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ผักเสี้ยนดอง หน่อไม้ต้ม ปลาร้าปลาช่อน ปลาร้าปลาสวาย มะระขี้นก ผักกวางตุ้ง ลูกผักกาด บวบเหลี่ยม แตงกวา แคแดง ยอดมะระขี้นก ไปจนถึงสองหม้อด้านหลัง(ใกล้ตัวแม่ค้า)ก็คือ แกงมะรุมปลาย่างและแกงส้มปลาตะโกก
ซ้ายกลางล่าง – มุมนี้เป็นโซนตุ๊กตาจากสัตว์น่ารักๆ รวมทั้งแหวนไฟ
ขวาล่าง – สำหรับซุ้มนี้มีเสื้อผ้าพื้นเมืองหลากหลายมาให้ซื้อหา เช่น ผ้าถุงสำเร็จรูป เสื้อกะเหรี่ยง ฯลฯ
ซ้ายล่าง – ก่อนจะจากจรช่องทางเดินนี้ไป ใครรักต้นไม้ ห้ามพลาดเด็ดขาด ต้นเล็กต้นน้อยวันนี้มีมะเขือพวง มะลิลา ยอ แมงลัก มะเขือเทศสีดา ตะไคร้ มะรุม ทองอุไร ไผ่เงิน พิทูเนีย ผีเสื้อ โกสน สาระแหน่ หญ้าหวาน จิงจูฉ่าย ผักชีลาว แคแดง มะเขือจานขาว มะเขือเจ้าพระยา ผักชี ถั่วพู แคขาว และกะเพราแดง

คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของถนนราษฎร์อุทิศ 2 บ้าง
บน – สถานการณ์บนถนนคนเดินฟากนี้ คนขายกลางถนนมีสินค้าให้ซื้อกลับไปบานตะไทเลย ลูกค้าอยู่ช่องทางเดินไหน ก็ตรวจสอบช่องของตนเองได้ (จากภาพ เรากำลังอยู่บริเวณสี่แยกถนนคนเดิน แล้วมองไปยังถนนราษฎร์อุทิศ 2 ซึ่งแผงลอยต่างๆที่อยู่ใกล้ภาพเป็นหมวดของใช้ ขณะที่มุมไกลเป็นของกิน และถ้าเดินมุ่งหน้าต่อไปอีก ก็คือถนนชัยพฤกษ์)
- ทีมงานขอเริ่มต้นจากถนนชัยพฤกษ์เข้ามา โดยเริ่มจากฝั่งซ้ายของถนนคนเดิน(หรือฝั่งขวาของภาพ“บน”)ก่อน
ซ้ายบน – เมนูยำมีหลายร้าน แต่หลักๆของร้านนี้เน้นไปที่อาหารทะเล ซึ่งมีกุ้งขาว ปูม้า หอยแครง และหอยนางรม
ขวาบน – เปิดหูเปิดตากับของกินหมวดนี้บ้าง นั่นคือ กล้วยฉาบอบเนย กล้วยฉาบบาร์บีคิว มันรังนกหวานกรอบ และมันบาร์บีคิว
ซ้ายกลาง – ถนนคนเดินส่วนใหญ่ไม่ตกเทรนด์สินค้าชนิดนี้แน่ เจ้านี้เลยทอดตัวไหม รถด่วน จิ๊กุ่ง ตั๊กแตน แมงกิซอน และจิ้งหรีดมาเป็นของรองท้อง
ขวากลาง – พี่ผู้หญิงมุมนี้มีของกินเล่นมายั่วกิเลสมากมาย เริ่มตั้งแต่ทองม้วนกรอบ ขนมผิง ข้าวเกรียบปลา ขนมปังหมูหยองมายองเนส ขนมปังเนยหนึบ ขนมปังแลบลิ้น สตรอว์เบอร์รีสติ๊ก ช็อกโกแลตสติ๊ก คุกกี้แฟนซี เมอแรงไอศกรีม เมอแรงมินิ ไอศกรีมมินิ ขนมปังกระเทียม ไปจนถึงเค้กโบราณ
- ต่อด้วยกลุ่มของใช้เลย
ซ้ายล่าง – ลุงแผงนี้มีเครื่องครัวหลายอย่างที่กำลังทยอยออกมาวาง เช่น ถ้วย ชาม แก้วใส จาน กาน้ำชา จานรอง แจกัน ฯลฯ
ขวาล่าง – แม่ค้ามีรองเท้าแบบหนีบและแบบสวมให้เลือกสะใจไปข้างหนึ่ง

ยังอยู่ช่องทางเดิมก่อน
ซ้ายบน – สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกสาวและกำลังหาซื้อเสื้อผ้าเด็กเล็กเด็กโต ซุ้มนี้เป็นตัวเลือกได้
ขวาบน – เสื้อผ้าสตรีมีอยู่ในทุกช่องทางจริงๆ เลยขอทิ้งท้ายช่องทางเดินนี้กับเสื้อผ้าเที่ยวนอกบ้านแล้วกัน
- ไปต่อกับช่องทางเดินขวามือบ้าง
ซ้ายกลางบน – ป้ากำลังตักกับข้าวจากหม้อสี่ใบใส่ถุงอยู่ ทั้งหมดมีแกงขาหมู แกงไก่ใส่มะเขือ แกงไก่หน่อไม้ และแกงส้มผักกวางตุ้ง ขณะที่มุมไกลของแผงเดียวกันมีลุงกำลังดูแลข้าวกล้อง น้ำตาลโตนดสด มะเขือเปราะ กระชาย น้ำตาลปึก ถั่วพู พริกขี้หนู ฝักเขียว ขึ้นฉ่าย และต้นหอม
ขวากลางบน – ใครๆที่เดินผ่านเตาเจ้านี้ ต่างก็ชำเลืองมองความคุกรุ่นทั้งนั้น ก็ปลาซาบะย่างซีอิ๊วเล่นโดดเด่นเหลือขนาด
ซ้ายกลางล่าง – สำรับถัดไปขอมอบให้กับเมนูไข่ล้วนๆ ส่วนประกอบที่เห็นในถ้วยสามารถปรุงเป็นรายการอาหารดังนี้ ไข่ดาวทรงเครื่อง ไข่เจียวพริกแกง ไข่เจียวทรงเครื่อง ไข่เจียวดาว ไข่เจียวคน และไข่เจียวเยิ้ม
ขวากลางล่าง – ป้าแผงนี้มีมะยมเชื่อม แคบหมู ข้าวต้มมัด และขนมเทียน
ซ้ายล่าง – เมนูน้ำผลไม้ปั่นไม่ได้หนีหน้าไปไหน ทั้งหมดมีส้ม ปีโป้ แตงโม สับปะรด มะนาว โกโก้ เอ็มร้อยห้าสิบ โอริโอ สตรอว์เบอร์รี นมเปรี้ยวดัชมิลล์คิดส์ แอปเปิล กีวี่ แคร์รอต รวมถึงน้ำส้มคั้นสดบรรจุขวด โค้ก สไปรท์ และแฟนต้า
ขวาล่าง – แม่ค้าสวมแว่นตามีเครื่องสำอางมาให้ประทินโฉมมากมาย เช่น ลิปมัน ฟอยล์ติดเล็บ ครีมแตงโมหน้าเนียน บลัชออนฝุ่นอัดแข็งเนื้อเนียนนุ่ม พาเลตเขียนคิ้ว บีบีครีมปกปิดคุมมัน อายแชโดว์ มาสคารา วิตามินบำรุงเส้นผมผิวและเล็บ ปากกาเขียนคิ้วแบบทินต์และหัวแปรง 4 แฉก บลัชออนเนื้อฝุ่น 8 เฉดสี ลิปสครับ สกินแคร์เซรั่มจากเกาหลี รองพื้น ดินสอทาเปลือกตาทาแก้มทาปาก เซรั่มเติมความชุ่มชื้น ฯลฯ  

ตอนนี้ก็ได้เวลาเลี้ยงส่งแผงสินค้าบนถนนคนเดินแล้ว
ซ้ายบน – น้องวัยรุ่นมุมนี้มีสินค้าหลักๆสองอย่างคือ กระเป๋าผ้าลดโลกร้อนกับกระติกเก็บความเย็น ส่วนสินค้าอื่นๆเน้นไปที่ของเล่น เช่น กล่องโพนี่จิ๋ว ถอดรหัสไขกุญแจ หมวกแบตแมน เฮลโหลคิตตี้ ของตกแต่งปีใหม่ สไลม์ ฯลฯ
- เข้าสู่เรื่องที่อยากเก็บตกอีกสามประเด็น
ขวาบน – ปกติเราจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นร้องเพลงป๊อบยุคปัจจุบันตามถนนคนเดินกัน แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้เรียกว่าฉีกกฏเกณฑ์ทุกฉบับไม่เหลือหลอเนื่องจากเพลงที่พวกเขาร้องอยู่นั้นย้อนยุคกลับไปอย่างต่ำๆก็สามสิบปี และเพลงที่ขับกล่อมนักท่องเที่ยวที่เนืองแน่นอยู่บริเวณสี่แยกถนนคนเดินตอนนี้ก็คือเพลง“น้ำผึ้งหรือยาพิษ”ของวงผู้หญิง
ซ้ายกลาง – บริเวณตรอกโรงยา นอกจากของกินของใช้ที่อุ่นหนาฝาคั่งแล้ว ยังมีโซนเด็กให้นั่งวาดภาพระบายสีตามใจฝันด้วย ส่วนผู้ปกครองก็คอยเป็นลูกมือ
ขวากลางบน – และบนถนนตรอกโรงยาอีกเช่นกันที่เราจะเห็นซุ้มผนังหน้าต่างโบราณพร้อมโต๊ะเก้าอี้อยู่กลางถนนให้นักท่องเที่ยวเก็บภาพประทับใจกลับไป ใครอยากนั่งบนเก้าอี้ยกหูโทรศัพท์ถ่ายรูปชิคๆหรืออยากยืนอยู่หลังฉาก แล้วโผล่หน้าลอดหน้าต่างเข้ามาอย่างที่นักท่องเที่ยวสองคนนี้กำลังทำอยู่ ก็สุดแล้วแต่เลย
- อย่างที่แอบกระซิบไปแล้วว่า ไฮไลต์ทั้งหมดทั้งมวลก็อยู่บนถนนตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยกั้ง รวมทั้งเรื่องราวของ“วันวาน”ด้วย ซึ่งเรากำลังเฉลยปริศนานี้
ซ้ายล่าง – ที่ช่องทางเดินซ้ายมือ(จากถนนท่าช้างเข้ามา)มีบ้านหลังหนึ่งที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของสะสม รวมทั้งรูปถ่ายเก่าๆของจังหวัดอุทัยธานี ที่สำคัญคือข้าวของเครื่องใช้นับไม่ถ้วนอาจทำให้หลายคนเผลอไผลไปกับอดีตโดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่นำมาจัดแสดงก็มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง ถ้วยโถโอชาม วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องครัว ขวดน้ำอัดลมยี่ห้อเก่าๆ ภาชนะบรรจุของ พัดลม กล้อง กระเป๋า ฯลฯ
- บริเวณช่องทางเดินขวามือ(จากถนนท่าช้าง)เข้ามา มีตรอกเล็กๆให้เลี้ยวขวาเข้าไปได้ หลายคนให้ความสนใจกันน่าดูเนื่องจากพื้นที่ด้านหลังตรอกโรงยานาทีนี้แปรสภาพเป็น“วันวาน”อย่างแท้จริง แต่ก่อนจะเข้าเรื่องของวันวาน บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงเรียกตรอก“โรงยา” เหตุผลก็คือ ตรอกนี้เคยเป็นที่ตั้งโรงยาฝิ่นนั่นเอง ในสมัยก่อน การสูบฝิ่นไม่ผิดกฎหมาย เถ้าแก่จ๊กซอยจึงสร้างโรงยาฝิ่นขึ้นในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม นอกจากนี้ โรงยาฝิ่นยังเป็นศูนย์รวมของกิน แหล่งบันเทิง สถานพักผ่อนหย่อนใจ รวมไปถึงโรงแรมของชาวอุทัยธานีอีก เกริ่นกันขนาดนี้ ถ้ายังไม่พาไปชม ทีมงานต้องโดนเคืองใส่รัวๆแน่ ถ้าอย่างนั้น ไปชมกันดีกว่า
ขวากลางล่าง – มุมนี้คือบรรยากาศภายนอกของโรงยาฝิ่นจำลอง นักท่องเที่ยวถ่ายรูปและเซลฟี่กันอุตลุตทั้งด้านหน้าและด้านใน เดี๋ยวเราเข้าไปชมด้านในต่อ ที่สำคัญ เมื่อเข้ามาในห้องจำลองแล้ว จะมีวิทยากรวัยรุ่นชายหญิงคอยอธิบายเนื้อหาของโรงยาฝิ่นด้วย (จากภาพ ถ้ามองเข้าไปในห้องจำลองของประตูแรก เราจะเห็นน้องกางเกงวอร์มเสื้อฟ้า น้องผู้หญิงคนนี้แหละคือหนึ่งในวิทยากร)
ขวาล่าง – และห้องจำลองนี้เป็นหนึ่งในสองห้องของโรงยาฝิ่น สำหรับห้องนี้จำลองการสูบฝิ่นของผู้คนในอดีต โดยฝิ่นจะเป็นยาง จากนั้นก็เอามาเคี่ยวในกระทะ แล้วปั้นเป็นแท่งใส่ลงในกระบอกสูบ แล้วเอามารนไฟ เมื่อแท่งฝิ่นในกระบอกโดนไฟ จะมีควันลอยออกมา ก็สูบควันฝิ่นจากกระบอกได้เลย (จากภาพ หุ่นจำลองที่นอนอยู่คือคนสูบฝิ่นจากกระบอก ส่วนหุ่นจำลองที่นั่งอยู่กำลังดื่มชาที่ได้จากขี้ยางของฝิ่น)