ในอดีตมีนายพรานหาของป่ามาพบก้อนหินที่ตั้งตระหง่านริมหน้าผานี้โดยบังเอิญ แต่ตอนนั้นยังมีต้นไม้ปกคลุมก้อนหินไปทั่วบริเวณ เมื่อเขากลับลงไป ก็เล่าให้คนในหมู่บ้านฟังถึงก้อนหินประหลาดบนภูเขา ครั้นมีคนพูดกันปากต่อปากและเริ่มมีคนมาดู ชื่อเสียงก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนมีการทำเส้นทางขึ้นเขาเพื่อสะดวกในการชม

รูปร่างก้อนหินจะดูคล้ายใบพัดเมื่อมองเห็น จึงเป็นที่มาของชื่อ“หินพัด” แต่ถ้าเรานั่งมองจากฝั่งตะวันออก ก้อนหินจะคล้ายรูปหัวใจหรือตัวผีเสื้อ โดยบริเวณรอบๆหินพัดเป็นลานหินที่เราสามารถเดินชมไปมาทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก และเมื่อมองไปไกลนอกหน้าผา เราจะเห็นผืนป่าขนาดใหญ่ ซึ่งตอนเช้ามีทะเลหมอกลอยปกคลุมป่าอยู่เบื้องล่างด้วย

หินพัดเป็นก้อนหินเดี่ยวที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา รูปร่างของหินก็เปลี่ยนแปลงไป แล้วแต่ว่าเราจะมองจากมุมไหน นอกจากความโดดเด่นแล้ว ตำแหน่งของหินพัดยังสามารถเห็นผืนป่าที่สวยงามได้กว้างไกลด้วย หรือถ้าใครมาแต่เช้า เราอาจได้ทะเลหมอกเป็นของแถม
บน – หินพัดคือหินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ในมุมนี้เราสามารถเห็นหินพัดคล้ายรูปทรงหัวใจ (จากภาพ ซ้ายมือจะติดกับป่าเขา ขณะที่ขวามือเป็นหน้าผาและมีผืนป่าอยู่เบื้องล่าง)

ไปชมหินพัดกันต่อ
ซ้ายบน - จากจุดจอดรถ ถ้าเราขึ้นไปชมหินพัด ต้องเดินทางอีกราวครึ่งกิโลเมตร ซึ่งทางจะชันตลอด แต่บริเวณจุดจอดรถจะมีรถบริการของชาวบ้านพาขึ้นไปและรอรับกลับลงมาในราคาคันละ 300 บาท แต่ถ้ารถของใครขึ้นทางชันไหว อยากลองไปเองก็ได้ หรือถ้าใครแข็งแรงพอ เดินเท้าขึ้นทางชันได้ ก็เชิญเลย และหลังจากผ่านทางชันมาแล้ว เรายังต้องเจอทางดินอีกสองร้อยเมตรก่อนจะถึงหินพัดตามที่เห็นในภาพ (จากภาพ ปัจจุบัน ทางดิน 200 เมตรนี้มีการปรับปรุงเส้นทางแล้ว)
ขวาบน – วินาทีแรกที่ทีมงานเห็นหินพัดก็คือมุมนี้ และจุดนี้ก็เป็นทางขึ้นไปชมหินพัด เราจะเห็นหินก้อนเล็กที่วางตามแนวร่องหินแยกเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นอย่างสะดวก (จากภาพ มุมนี้จะเห็นหินพัดเป็นรูปทรงพัดจริงๆ จากก่อนหน้านี้ที่เห็นเป็นรูปหัวใจ)
ซ้ายกลาง – หินพัดรูปทรงหัวใจในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
ซ้ายล่าง – ขณะที่มุมนี้ทำให้เราเห็นหินพัดคล้ายกับผีเสื้อกางปีกอยู่ และผู้หญิงที่เป็นนางแบบก็คือ ป้าที่ดูแลหินพัดอยู่ในเพิงบนเขา ภายในเพิงมีของกินเล่นเล็กๆน้อยๆจำหน่าย รวมทั้งเสื้อที่ระลึกหินพัดด้วย
ขวากลาง – ฐานของหินพัดตั้งอยู่บนพื้นหินริมขอบผาและมีหน้าสัมผัสตามภาพนี้
ขวาล่าง – ความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้เมื่อมองจากหน้าผาลงไป