ถ้ำลอดอยู่ในเกาะที่เป็นเขาสูงขึ้นมาและมีช่องทะลุขนาดใหญ่บริเวณผิวน้ำ ซึ่งน้ำทะเลเชื่อมถึงกันทั้งสองปากถ้ำ ส่วนเรือหางยาวและเรือเล็กสามารถผ่านไปมาได้ บนเพดานถ้ำยังมีหินย้อยให้ชมด้วย

นอกจากนี้รอบเกาะมีถ้ำเตี้ยๆเป็นช่องทะลุระยะสั้นให้นักท่องเที่ยวลอดเข้าไปชมเวิ้งน้ำด้านในได้อีก ภายในมีกำแพงเขาสูงรายล้อมเวิ้งน้ำและมีปล่องเพดานอยู่ด้านบน โดยถ้ำเวิ้งน้ำเหล่านี้มีอยู่หลายจุดของเกาะ

มีเขาอยู่ลูกหนึ่งซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำ ที่ไม่ธรรมดาคือ เกาะนี้มีถ้ำลอดคล้ายถ้ำทะลุขนาดใหญ่และยังมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่มีเวิ้งน้ำขนาดย่อมซ่อนอยู่อีกหลายจุด กิจกรรมนั่งเรือแคนูพาลอดถ้ำโน้นออกถ้ำนี้จึงเกิดขึ้น โดยมีคนพายทำหน้าที่เสมือนอาจารย์พาลูกศิษย์ไปเปิดโลกกว้าง แถมบทเรียนนี้มีแต่ความอภิรมย์
บน – จุดนี้คือถ้ำลอดตามชื่อสถานที่และถือเป็นถ้ำไฮไลต์ที่เรือแคนูทุกลำต้องแวะเยือน

นั่งเรือชมวิวไปพร้อมๆกับทีมงาน
ซ้ายบน – ชาวต่างชาติมากมายกำลังหรรษากับการเข้าออกถ้ำลอด (จากภาพ ค่าเรือแคนูพร้อมคนพายคือ 300 บาทต่อลำ หนึ่งลำนั่งได้สองคน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง)
ขวาบน – หลังจากลอดถ้ำใหญ่แล้ว เราไปลอดถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่มีเวิ้งน้ำกันบ้าง ส่วนการเข้าออกถ้ำนั้น ถ้าปากทางไหนเตี้ยหรือน้ำขึ้นสูง นักท่องเที่ยวต้องนอนหงายอย่างเช่นหนุ่มสาวชาวอินเดียสองคนนี้
ซ้ายกลาง – หน้าตาของกำแพงถ้ำ เราต้องมุดช่องทะลุตามภาพในทุกถ้ำ สำหรับถ้ำเวิ้งน้ำนี้จะกระจายตัวอยู่รอบเกาะ
ขวากลาง – เมื่อลอดเข้ามา นักท่องเที่ยวต่างก็แหงนหน้าดื่มด่ำบรรยากาศเงียบๆของเวิ้งน้ำอย่างมีความสุข (จากภาพ ชาวจีนและญี่ปุ่นทั้งสี่ลำกำลังชื่มชมความสวยงามอยู่)
ซ้ายล่าง – นอกจากถ้ำแล้ว รอบเกาะยังมีป่าโกงกางให้เราเพลิดเพลินต่อด้วย (มาฟังเสียงนกเสียงกาหากิน ก็สบายใจดี)
ขวาล่าง – จุดเด่นอีกอย่างคือเรือของกินที่ปักหลักอยู่กลางทะเลหน้าถ้ำไฮไลต์ คนขายคอยจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลให้นักท่องเที่ยว เช่น ลองกอง มังคุด เงาะ ฯลฯ อย่างเช่นช่วงนี้ เราจะได้ลิ้มรสมะพร้าว สับปะรด และทุเรียน