น้ำตกธารปลิวมีต้นน้ำจากโพรงถ้ำของเขาลุงเตรอะ แล้วไหลไปตามพื้นหินลาดเอียงด้านบน ก่อนจะไหลลงผาน้ำตกหนึ่งชั้นสูงเกือบ 5 เมตร และเนื่องจากบริเวณน้ำตกมีการพอกพูนของสารแคลเซียมคาร์บอเนตของหินปูนทูฟาที่ไหลมากับสายน้ำจากภูเขาหินปูนยุคออร์โดวิเชียน พื้นผิวหินปูนบริเวณน้ำตกจึงโค้งมน จากนั้นสายน้ำจะผ่านชั้นหินเป็นน้ำตกชั้นเล็กชั้นน้อยกระจายเป็นมุมกว้างต่อไป บรรยากาศโดยรอบรายล้อมด้วยพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม

อนึ่ง น้ำตกธารปลิวจะไหลสู่คลองโละไฟต่อไป

การที่ทีมงานไม่คาดหวังอะไรไว้แต่แรก แต่พอมาเจอธรรมชาติที่สวยกว่าที่คิด ก็เผลอปล่อยตัวปล่อยใจอยู่นานสองนานเหมือนกัน ที่น่าแปลกก็คือ เป็นหนึ่งในไม่กี่น้ำตกที่แฝงความโรแมนติกไว้ด้วย แถมป่าดงพงไพรที่ดูไม่ปรุงแต่ง ทึบบ้าง ผุบ้าง รกบ้าง แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
บน – น้ำตกอยู่ติดกับลานจอดรถเลย เดินมานิดเดียวก็มีทางปูนพาเข้าสู่ตัวน้ำตก นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับสายน้ำที่ไหลเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆน้อยๆกระจายไปทุกทิศก่อน และถึงแม้ภาพรวมเป็นน้ำตกไม่ใหญ่มาก แต่แต่ละช่วงที่เดินผ่านไป กลับซื้อใจทีมงานไม่หยุด (จากภาพ บรรยากาศครึ้มๆมุมนี้จัดวางองค์ประกอบและเล่นแสงเงาได้น่ามองจริงๆ เรียบหรูและดูแพง ตอนนี้กลายเป็นว่า กว่าจะถึงน้ำตก ทีมงานเริ่มเอะใจแล้วว่า ตรงไหนคือไฮไลต์กันแน่)

เดินบนทางปูนต่อ
ซ้ายบน – น้ำตกชั้นเล็กๆที่เราต้องเดินผ่านทางปูนไป
ขวาบน – ป่าสีเขียวที่โอบล้อมน้ำตกธารปลิวเวลานี้ ดูร่มรื่นเย็นตา แถมทางเดินที่รกไปด้วยกิ่งไม้ใบหญ้า พอดูโดยรวมแล้ว กลับได้ความโรแมนติกเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมทาง
- ตอนนี้ก็ได้เวลายลโฉมน้ำตกธารปลิว
กลาง – ที่เป็นแผงสีขาวอยู่ฉากหลังก็คือ น้ำตกธารปลิว ซึ่งแผ่เป็นวงกว้าง จากนั้นก็ไหลเป็นน้ำตกยิบย่อยตามภาพ ทั้งสีของใบไม้และเสียงของน้ำตกดูมีชีวิตชีวากันตลอด
ซ้ายล่าง – น้ำตกธารปลิวมุมนี้สูงเกือบ 5 เมตร และถือว่าเด่นกว่าใครเพื่อนเพราะความโค้งมนอันเกิดจากสารแคลเซียมคาร์บอเนตที่ไหลตามน้ำจากเขาหินปูนจนพอกพูนเป็นรูปทรงอย่างที่เห็น
ขวากลาง – มุมนี้เป็นน้ำตกธารปลิวอีกจุดที่ไหลลงมาอย่างงดงาม
- ปิดท้ายกับภารกิจปีนป่ายน้ำตกไปชมต้นน้ำกัน
ขวาล่าง – ต้นน้ำไม่ได้ไหลลงมาจากภูเขา แต่เอ่อล้นจากโพรงถ้ำใต้เขาหินปูน แล้วทะลุทะลวงออกมาอย่างแรงจนทีมงานต้องยืนประคองขาให้มั่น