ผาช่อ

คำอธิบาย


ผาช่อเป็นหน้าผาดินตะกอนสูงชันที่มีความโดดเด่นและสวยงาม เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาในยุคเทอร์เซียรี พื้นที่ของผาช่อตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง

โดยปี พ.ศ.2544 คุณดวงดาว เตชะวัฒนาบวร ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วาง ได้มาสำรวจแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จึงสอบถามประชาชนโดยรอบพื้นที่และรับทราบว่า บริเวณนี้มีปรากฏการณ์ธรรมชาติของกำแพงดินตะกอน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า“ผาจ้อ” จึงได้ดำเนินการสำรวจเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ และด้วยลักษณะที่เป็นหน้าผากำแพงดินตะกอนและชูช่อขึ้นไปบนท้องฟ้า จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า“ผาช่อ”

ต่อมาปี พ.ศ.2555 มีการปรับปรุงถนนทางเข้าให้สะดวกยิ่งขึ้น จากนั้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2557 ได้ดำเนินการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวผาช่อ โดยจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จัดทำทางเดินและบอร์ดวอล์ก จุดถ่ายรูป ขณะนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติแม่วางและเผยแพร่ภาพของผาช่อออกไป นับจากนั้น ผาช่อก็ได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน



ผาช่อเป็นกำแพงดินตะกอนที่ซ่อนอยู่กลางป่าสีเขียวในอุทยานแห่งชาติแม่วาง นักท่องเที่ยวจะเหมือนหลุดเข้าไปในดินแดนโบราณที่มีประติมากรรมแปลกตาห้อมล้อมอยู่ และเส้นทางของกำแพงดินตะกอนทรงสูงที่เราจะเดินเข้าไปนี้ก็คือ โลกดึกดำบรรพ์ใต้แม่น้ำปิงเมื่อหลายล้านปีก่อน
- ทีมงานขอพาทุกคนเข้าสู่ผาช่อเลย
ซ้ายบน – จุดนี้คือ ไฮไลต์ของผาช่อที่เห็นจากด้านบนก่อนใครเมื่อมาถึง กำแพงดินตะกอนดูยิ่งใหญ่ราวกับแกรนด์แคนยอน ความสวยงามนี้กำลังอยู่เบื้องหน้านักท่องเที่ยวที่อยู่ด้านล่างแล้ว ส่วนทีมงานกำลังลงไปร่วมสัมผัสอีกคน (จากภาพ ตำแหน่งที่ทีมงานยืนอยู่จะมีบันไดลงไปด้านล่างและมีทางเชื่อมไปยังกำแพงดินตะกอนโซนต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถแชะรูปสวยๆได้ทุกมุม)
ขวาบน – กำแพงดินตะกอนดูตระหง่านมาก (จากภาพ กระบวนการตามธรรมชาติที่ทำให้เกิดผาช่อมีลำดับทางธรณีวิทยา 4 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนแรก เกิดจากการทรุดตัวของพื้นที่ราบลุ่ม รวมถึงพื้นที่ด้านตะวันตกของอำเภอดอยหล่อซึ่งก็คือที่ตั้งของผาช่อ การทรุดตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ล้านปีที่แล้ว ขั้นตอนต่อมา หลังจากการทรุดตัว มีการสะสมของตะกอนกรวด ทราย ทรายแป้ง และดินเหนียวที่เกิดจากการพัดพาโดยแม่น้ำปิงและแม่น้ำสาขาต่างๆที่ไหลผ่านแอ่งที่ราบ การสะสมตัวของตะกอนเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ล้านปีก่อน ขั้นตอนถัดมาคือ เกิดการยกตัวขึ้นอย่างช้าๆเมื่อประมาณ 1-2 ล้านปี ทำให้ชั้นตะกอนกรวด ทราย ทรายแป้ง และดินเหนียวถูกแม่น้ำปิงกัดเซาะตะพักน้ำขั้นบันได แสดงการคัดขนาด และเกิดการแทรกสลับของชั้นกรวด ทราย และทรายแป้งเป็น 5 ชั้นหลัก ส่วนขั้นตอนสุดท้าย เกิดการกัดเซาะของลมและฝนบริเวณตะพักน้ำ ซึ่งเป็นการกัดเซาะในแนวดิ่ง ทำให้เกิดเป็นหน้าผาสูงชันดังที่เห็นในปัจจุบัน)
ซ้ายล่าง - เสาโรมัน (จากภาพ กระบวนการธรณีแปรสัณฐานของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ชั้นตะกอนบริเวณนี้ถูกดันตัวขึ้น รวมทั้งกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น รากไม้ ฝน ลม กระแสน้ำ ฯลฯ ที่ช่วยกันกัดเซาะผิวด้านบนและด้านข้างของชั้นตะกอน จึงเกิดการผุพังตามธรรมชาติ ชั้นกรวดที่ปิดทับเฉพาะจุดและมีความทนทานต่อการกัดเซาะมากกว่าพื้นที่ข้างเคียง ทำให้เกิดการพังทลายลงและคงเหลือเป็นทรงเสาตะกอนที่สวยงามดังเช่นเสาโรมันตามภาพ)
ขวาล่าง – ผาช่ออีกโซนหนึ่ง (จากภาพ ผาช่อเป็นดินตะกอนยุคเทอร์เชียรีเมื่อ 5 ล้านปีที่แล้ว และเนื่องจากปัจจุบัน แม่น้ำปิงได้ย้ายตำแหน่งเส้นทางน้ำไป โดยอยู่ห่างจากผาช่อประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ผาช่อกลับมีตะกอนกรวดแม่น้ำกลมมนที่มีลักษณะคล้ายกับกรวดของแม่น้ำปิง นักธรณีวิทยาจึงสันนิษฐานว่า พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของแม่น้ำปิงมาก่อน)



 

เที่ยวชมผาช่อกันต่อ
ซ้ายบน – กระบวนการทางธรรมชาติทำให้ผิวหน้าชั้นตะกอนเกิดเป็นร่อง แท่ง โค้งเว้า และลวดลายที่สวยงาม
- หลังจากชื่นชมผาช่อเป็นที่เรียบร้อย ต่อไปคือ“ฮ่อมกองกีด”หรือช่องแคบที่เกิดจากการธรณีแปรสัณฐานของโลก
ขวาบน – ฮ่อมกองกีดเป็นเส้นทางธรรมชาติคล้ายเขาวงกตให้เราเดินคดเคี้ยวไปมาเรื่อยๆและเป็นทางออกจากผาช่อด้วย นักท่องเที่ยวจะเห็นกำแพงขนาดสูงใหญ่ต่างกันที่คอยขนาบตัวเราทั้งสองฟากอย่างใกล้ชิด
ซ้ายกลาง – ตลอดเส้นทางเดินแคบๆมีแต่ความสวยงามของธรรมชาติให้เราได้ประทับใจ
- จากลานจอดรถที่หนึ่ง จุดออกสตาร์ตไปผาช่อจะเริ่มจากตรงนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินลงบันไดมา ก็จะพบเส้นทางศึกษาธรรมชาติเลย
ซ้ายกลาง – เส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้เป็นทั้งทางเข้าและทางออกของผาช่อ ทางเดินมีทั้งฝั่งซ้ายและขวา นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินได้ทั้งสองด้าน แต่เมื่อเข้าใกล้ผาช่อแล้ว เราต้องเดินขึ้นบันไดก่อน จึงจะพบผาช่อ(เหมือนกับภาพซ้ายบนในเซ็ตแรก) จากนั้นเมื่อชมผาช่อเสร็จ ก็เดินผ่านช่องฮ่อมกองกีดออกมา และจากเส้นทางที่กล่าวมาทั้งหมด จะมีระยะทางรวม 900 เมตร (จากภาพ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินี้มีบอร์ดวอล์ก(หรือป้ายคำอธิบายเรื่องราวต่างๆ)ทั้งหมด 11 ป้ายให้ผู้ที่สนใจผาช่อได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดทางเดิน ใครสนใจอะไร ก็หยุดยืนอ่านได้)
- เรามาชมเนื้อหาบางส่วนจากบอร์ดวอล์กตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติกัน
ซ้ายล่าง – “ทรายแป้ง”คือ ชั้นกำแพงที่มีทรายแป้งเป็นส่วนประกอบและอยู่ด้านข้างทางเดินศึกษาธรรมชาติ (จากภาพ ชั้นตะกอนแม่น้ำเกิดจากการตกตะกอนของแม่น้ำที่สะสมตัวในช่วงเวลาต่างกัน กระแสน้ำยังพัดพาตะกอนมาด้วยความแรงที่ต่างกันด้วย กระแสน้ำที่แรงมากจะพัดพาตะกอนมวลหนักมา เช่น ก้อนกรวด ฯลฯ ส่วนกระแสน้ำที่แรงน้อยจะพัดพาตะกอนที่มีมวลเบามา เช่น ทรายแป้ง ฯลฯ ทั้งหมดจะมาทับถมเป็นชั้นตะกอนที่มีขนาดแตกต่างกัน ความแตกต่างของพลังน้ำในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เกิดเป็นชั้นตะกอนที่เรียงตัวสวยงาม โดยสีเดิมของทรายแป้งคือ สีขาวและสีเหลือง มีลักษณะเป็นฝุ่นผงละเอียด เมื่อมีเหล็กออกไซด์เข้ามาเคลือบ สีขาวของทรายแป้งจะเปลี่ยนไปตามปริมาณและชนิดของเหล็กออกไซด์ที่เคลือบทรายแป้ง เช่น สีชมพู สีแดง สีแดงเข้ม สีดำ ฯลฯ)
- บนผาช่อมีร้านเล็กๆร้านหนึ่งที่มองเห็นจุดชมวิวสวยๆได้ด้วย
ขวาล่าง - บริเวณลานจอดรถจุดที่หนึ่งมีอาคารคอนกรีตหลังเล็กที่เปิดเป็นร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายสินค้าอยู่หนึ่งร้านและมีที่นั่งอยู่ใต้หลังคา สินค้าที่จำหน่ายมีของกินเป็นส่วนใหญ่
รายการสินค้า - หมวดของกินเล่นและขนมขบเคี้ยวมีฮานามิรสดั้งเดิม โตโร่รสดั้งเดิมและรสซูเปอร์คาราเมล คอนเน่ อาริงาโตรสดั้งเดิม ขนมไก่ย่างรสใบเตย บันบันรสดั้งเดิม ปาปริก้า ฟีบัสโรล โรลเลอร์โคสเตอร์(รสสไปซี่บาร์บีคิวและรสชีสต้นตำรับ) โปเต้ เลย์รสมันฝรั่งแท้ คริสปี้พายรสคอร์นชีส แจ๊กซรสซอสมะเขือเทศ คาราด้ารสปลาหมึก เถ้าแก่น้อย ทาโร่ โดโซะ(รสกลมกล่อมและรสคอร์นชีส) เมล็ดฟักทอง ดิวเบอร์รีรสสตรอว์เบอร์รี บิสชินรสมะพร้าว กัสเซน ฟันโอ(สอดไส้ครีมรสต่างๆคือ นม คุกกี้แอนด์ครีม และช็อกโกแลต) เมล็ดทานตะวันอบสมุนไพรตราจังโก้ ยูโร่เค้ก(สอดไส้ครีมคัสตาร์ดและไส้สตรอว์เบอร์รี) เบงเบง มาม่าคัพ ไวไวควิก และพีจอยสอดไส้ครีมกลิ่นมินต์ ต่อไปเป็นเครื่องดื่มในตู้เย็นซึ่งมี C-Vittรสส้ม เอ็มร้อยห้าสิบ น้ำมะขามขวด น้ำมะพร้าวผสมวุ้นมะพร้าวขวด น้ำกระเจี๊ยบขวด มินิทเมดพัลพี ไวตามิลค์สูตรดับเบิลช็อกโก Woody C-Lock น้ำผลไม้กาโตะรสแตงโม แฟนต้า ชเวปส์ เป๊ปซี่ ดัชมิลล์โฟร์อินวัน แมนซั่ม(สูตรต่างๆคือ คอลลาเจน แอล-กลูตาไธโอน และไฟเบอร์)
บิวติดริงก์สูตรบิวติอาย เรดดี้บูตรสโกจิเบอร์รี เพียวริคุ(รสลิ้นจี่ไลจิโกะและรสพิงค์กุสตรอว์เบอร์รี) สปอนเซอร์ อิชิตัน(รสจมูกข้าวญี่ปุ่นและรสต้นตำรับ) และน้ำดื่มสิงห์ ส่วนเครื่องดื่มที่ปรุงในร้านมีเอสเพรสโซ อเมริกาโน ลาเต้ มอกค่า กาแฟโบราณ กาแฟสำเร็จรูป ชาเขียวนม ชาเย็น ชาดำเย็น ชามะนาว น้ำผึ้งมะนาว น้ำแดงโซดา น้ำเขียวโซดา และอิตาเลียนโซดา ไปจนถึงหมวดสินค้าอุปโภคที่มีผ้าเย็น ทิชชู่ ผ้าอนามัย เสื้อกันฝน โปสการ์ด และยาดมโป๊ยเซียน


TODAY THIS MONTH TOTAL
444 5381 297773
Copyright : 2018 KarnDernTang.com ขอสงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาในเว็บไซต์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกโดยไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทรับทำเว็บไซต์ Design By cw.in.th

Scroll To Top