เกาะกำตกเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะกำ จุดเด่นของเกาะกำตกคือ มีลักษณะเป็นเกาะสองเกาะที่มีแนวสันทรายเชื่อมกันเป็นแนวยาวและโค้งเป็นอ่าว เนื่องจากอ่าวนี้โค้งคล้ายครึ่งวงกลมจนมีลักษณะเหมือนเขาควาย จึงตั้งชื่ออ่าวนี้ว่า"อ่าวเขาควาย" บนเกาะกำมีหาดทรายสีขาวและมีความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของหน่วยย่อยอุทยานแห่งชาติแหลมสน

เกาะกำตกโดดเด่นที่แนวสันทรายสีขาวเชื่อมเป็นทางเดินยาวระหว่างเกาะ บนสันทรายยังมีต้นสนขึ้นเรียงเป็นทิวแถว บริเวณนี้เองที่เรียกว่า"อ่าวเขาควาย" นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวสวยๆบนเขาอีก ที่ผ่านมาเรือหลายลำใช้เกาะนี้เป็นที่แวะพักกินข้าวและถ่ายรูปอ่าว แต่หลังจากทีมงานสำรวจเกาะแล้ว แทบไม่อยากเสียเวลากับการกินเลย
บน – เบื้องหน้าเราก็คือ เกาะกำตก (จากภาพ เกาะกำตกเป็นภูเขาสองลูกที่มีแนวสันทรายหรืออ่าวเขาควายเป็นตัวเชื่อม ภูเขาทางซ้ายที่มีต้นไม้ปกคลุมมีขนาดใหญ่กว่า ภูเขาทางขวาที่เป็นเขาหินและมีต้นไม้บนยอดเขามีขนาดเล็กกว่า ส่วนทางเข้าเกาะคือ ช่องแคบที่มีโขดหินเล็กๆขวางอยู่กลางน้ำบริเวณอักษร karndern และหาดสีขาวๆด้านในก็คือ แนวสันทรายของอ่าวเขาควายที่มีต้นสนเป็นแผงยาว ซึ่งเรือของนักท่องเที่ยวจะเข้าไปจอดที่โค้งนี้)  
- หลังจากเรือเทียบท่า นักท่องเที่ยวต้องชำระค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติแหลมสนบนเกาะกำตก จากนั้นก็เป็นอิสระของเรา ตอนนี้ทีมงานขอแวะกินข้าว(ที่เตรียมมา)เรียกพลังสักหน่อยเพราะบนเกาะมีโต๊ะเก้าอี้แยกเป็นมุมอยู่ใต้ต้นสนหลายจุด กินเสร็จก็เก็บขยะไปทิ้ง แล้วสำรวจโลด (อนึ่ง บนเกาะไม่มีร้านค้าใดๆ)
- ตอนนี้ขอเริ่มบรรยากาศภาคพื้นก่อน
ซ้ายบน – ทิวทัศน์หาดทรายและแนวต้นสนของเกาะกำตก(ที่อยู่คนละฝั่งกับหาดที่เรือจอด)ดูสงบเงียบ
ซ้ายกลาง – น้ำทะเลฝั่งนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร แสงประกายแวววับของน้ำระดับข้อเท้าคือเครื่องพิสูจน์
ขวา – ต้นสนคือเอกลักษณ์ของอ่าวเขาควาย ทีมงานอยู่ในป่าผืนเล็กๆนี้แล้ว
- ต่อไปได้เวลาของ Bird Eye View
ล่าง – จุดชมวิวอ่าวเขาควาย (จากภาพ เส้นทางขึ้นจุดชมวิวยอดฮิตนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นอ่าวเขาควายได้เต็มตา เราจะเห็นสันทรายสีขาวโค้งเว้าเป็นเวิ้งยาวพร้อมป่าสนและมีทะเลทั้งสองฟากเป็นไฮไลต์ สำหรับมุมกินข้าวก็อยู่ในป่าสนทางซ้าย ในอดีตตอนมีเหตุการณ์สึนามิ อ่าวเขาควายขาดออกจากกันเพราะคลื่นยักษ์ซัดจนโค้งสันทรายหายไปและกลายเป็นช่องแคบให้น้ำทะเลไหลผ่านแทน ส่วนต้นสนก็ล้มและโดนคลื่นยักษ์พัดไป แต่จากนั้นธรรมชาติก็เริ่มบำบัดตัวเองโดยคลื่นค่อยๆซัดเอาทรายกลับเข้ามาทีละน้อย ต้นสนก็ค่อยๆเติบโตขึ้นใหม่ จนในที่สุดเวิ้งนี้ก็กลับมาเป็นอ่าวเขาควายดังเดิม สำหรับเส้นทางขึ้นจุดชมวิวอ่าวเขาควาย ให้ทุกคนเดินมาใต้อักษร www จากนั้นจะมีทางดินธรรมชาติตามสันเขา(ที่อุทยานทำไว้)ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น ช่วงท้ายก่อนถึงจุดชมวิวเป็นทางชัน แต่จะมีเชือกให้ยึดและต้องใช้มือเกาะพื้นดินช่วย เมื่อชมวิวสวยๆเสร็จแล้ว ทางกลับก็ไต่ลงทางเดิม ส่วนภาพนี้เรือของทีมงานจอดน่ารักๆอยู่หนึ่งลำเหนืออักษร nd)

แค่จุดชมวิวอ่าวเขาควายก็กินขาดแล้ว แต่เกาะกำตกไม่ได้มีแค่จุดชมวิวจุดเดียว ตอนนี้ให้ทุกคนมองไปที่ภาพ“ล่าง” ของเซ็ตแรก เราต้องเดินตามแนวชายหาดไปขวาสุดของภาพเหนืออักษร m จุดนั้นจะมีทางดินขึ้นเขาไปจุดชมวิวอีกจุด ทางขึ้นเขาจุดนี้จะไม่หนักเหมือนจุดชมวิวอ่าวเขาควาย คือเดินสบายกว่า จุดชมวิวนี้มีชื่อว่า“ผาตะวันตก”
บน – จากจุดชมวิว“ผาตะวันตก” นักท่องเที่ยวจะเห็นเวิ้งของอ่าวเขาควายพร้อมป่าสนในมุมที่ต่างออกไป
ซ้ายบน – จุดชมวิวนี้สามารถเดินไปอีกด้านเพื่อชมทะเลอันดามันสวยๆตามภาพได้ (จากภาพ ขอให้ทุกคนมองไปที่ภาพ“บน”ของภาพเซ็ตแรกอีกครั้ง ระหว่างอักษร o และ m ให้มองขึ้นไปด้านบน เราจะเห็นหญ้าสีน้ำตาลอยู่ จุดนั้นก็คือ จุดชมวิวผาตะวันตก ซึ่งเป็นตำแหน่งยืนของนักท่องเที่ยวที่จะเห็นทะเลอันดามัน แต่ถ้าเราเดินเข้าดงต้นไม้ไปอีกฝั่งของจุดชมวิวผาตะวันตก ตรงนั้นก็คือ จุดชมวิวที่เห็นอ่าวเขาควายในมุมที่ต่างออกไปนั่นเอง)
ขวาบน – ทีมงานขอย้อนกลับมาจุดชมวิวอ่าวเขาควายอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนได้เห็นเส้นทางความชัน ทางอุทยานได้ทำเชือกให้ยึดตอนปีนขึ้นไว้ และถ้าเราสังเกตนักท่องเที่ยวหนุ่มด้านบน บริเวณนั้นจะชันสุดจนต้องก้มตัว แล้วใช้มือสองข้างจับดินที่พื้นเพื่อประคองและไต่ตัวเองขึ้นไป
- ทีแรกตั้งใจมาถ่ายวิวธรรมชาติบนเกาะ แต่ความหลากหลายทางชีวภาพกลายเป็นจุดโฟกัสที่ทีมงานคาดไม่ถึงบนเกาะนี้ แถมยังค้นพบปริศนาบนเกาะที่น่าจะเชื่อมโยงไปถึงชื่อเกาะญี่ปุ่นด้วย (ซึ่งอยู่ในภาพสุดท้าย)
ซ้ายกลาง – "นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่"มีเอกลักษณ์ของก้านขนหางที่ยื่นยาวออกมา
ขวากลาง – "ปูหิน"ชอบป้วนเปี้ยนอยู่ตามโขดหิน
ซ้ายล่าง – ปลิงทะเล
ขวาล่าง – “ต้นเท้ายายม่อม”มีมากทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของไทย ต้นนี้จะมีหัวมันอยู่ใต้ดิน ปัจจุบันเริ่มหายากขึ้นตามธรรมชาติ ทีมงานแปลกใจทีเดียวที่มาเจอบนเกาะนี้ และเนื่องจากเกาะกำตกและเกาะญี่ปุ่นเป็นหมู่เกาะกำโซนเดียวกัน จึงทำให้ทีมงานค่อนข้างมั่นใจว่า เรื่องเล่าที่ว่า ในอดีต เกาะญี่ปุ่นเคยมีชื่อว่า“เกาะมันมารง”เพราะมีต้นมันขึ้นอยู่บนเกาะและมีชาวมอร์แกนมาเก็บมันไปนั้น มันเหล่านั้นน่าจะเป็น"เท้ายายม่อม"