จากป้ายหมดระยะของถนน ปน.2062 ที่บ้านแหลมตาชี จะมีทางเดินอิฐตัวหนอนผ่านดงต้นสนทะเลที่ขึ้นเรียงรายตลอดทางต่อประมาณ 600 เมตร ก่อนจะเหลือสันทรายสีขาวทอดตัวเป็นหาดและมีน้ำใสๆกระทบฝั่งทั้งสองฟากทะเลอีกราวสองร้อยเมตรจนสุดทางที่ปลายแหลมตาชี(หรือแหลมโพธิ์) จุดสำคัญอยู่ตรงเม็ดทรายบริเวณปลายแหลมที่โดนคลื่นซัดไปมาทุกทิศทาง แต่แหลมจะยาวขึ้นหรือสั้นลง ก็อยู่ที่ปัจจัยน้ำขึ้นน้ำลงเป็นหลักด้วย
กิจกรรมที่นิยมก็คือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าหรือแสงตะวันตกดินที่แหลมนี้ ซึ่งสามารถมองเห็นตัวเมืองยะหริ่งและตัวเมืองปัตตานีจากหาดแห่งนี้ได้ ส่วนทิศหันออกทะเลยังมีหอประภาคารสีขาวที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ขณะที่เรือเล็กออกจับปลาไม่ห่างจากฝั่งก็แล่นผ่านไปผ่านมาตลอด บางครั้งเรือก็จอดพักที่แหลมนี้ด้วย จุดสังเกตอย่างหนึ่งคือ เรือเก่าในสภาพท้องเรือผุพังที่จอดเกยหาดลำหนึ่ง โดยโครงเรือยังสมบูรณ์อยู่ แต่ด้วยข้อความข้างเรือด้านหนึ่งที่เขียนว่า“แสงแรกฟ้า... ที่แหลมตาชี”และอีกด้านหนึ่งที่เขียนว่า“แสงลับฟ้า... ที่แหลมตาชี” เรือลำนี้จึงเป็นคำพูดแทนสัญลักษณ์ของแหลมตาชีไปโดยปริยาย
บนแหลมนี้ยังมีกิ่งไม้เล็กๆปักลงทรายทำเป็นฉากวางเบ็ดกับฉมวกสำหรับนักตกกุ้งและปลาริมหาดด้วย รวมทั้งสะพานไม้ชั่วคราวที่สร้างไว้ต้อนรับผู้ว่าปัตตานีเวลานั่งเรือมาขึ้นฝั่งปีละครั้งที่แหลมนี้อีก การเดินทางมาแหลมตาชีในตำบลแหลมโพธิ์นี้สามารถทำได้สองทางคือ
1. ทางแยกจากถนนสาย 42 เข้าตำบลยามูไปตามถนนสายชนบท ปน.2062 อีก 22 กิโลเมตร จากนั้นจะมีทางเดินอิฐตัวหนอนต่อ
2. นั่งเรือจากตัวเมืองยะหริ่งหรืออำเภอเมืองปัตตานีข้ามมาที่แหลมตาชีโดยตรงเลยก็ได้
มีหลายคนเรียกให้ไปดูแหลมนี้ซึ่งถือว่าเป็นแหลมที่อยู่ไกลสุดของทะเลไทย เขาบอกว่าฟ้าเป็นฟ้า น้ำเป็นน้ำ เช้าวันนี้เลยตั้งปณิธานว่า จะพาทุกคนมาเดินชมบรรยากาศแหลมตาชี แล้วก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ตอนนี้ฟ้ากำลังเปิด ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องน้ำเป็นสีน้ำ แหลมนี้สวยงามไม่แพ้ใคร
บน - ภาพแหลมตาชีที่เว้าโค้งไปถึงปลายแหลม ส่วนฝั่งตรงข้ามที่เห็นคืออำเภอเมืองปัตตานี สำหรับแหลมตาชีอยู่ในอำเภอยะหริ่ง
คราวนี้เดินมุ่งหน้าสู่ปลายแหลมกัน
ซ้ายบน - เบื้องหน้าคือปลายแหลมตาชีที่เรากำลังเดินไป
ขวาบน - จากเส้นทางที่เดินมาเมื่อสักครู่ แล้วหันกลับไปอีกครั้ง สันทรายจากนี้กำลังทอดตัวแคบลงจนจรดปลายแหลมในที่สุด
ซ้ายกลาง - ยืนอยู่ในน้ำทะเลบริเวณแหลม แล้วมองไปยังสันทรายที่เราเดินมา ที่มุมไกลจะเห็นเรือลำเล็กที่เพิ่งกลับจากการหาปลาไม่ไกลฝั่ง ในเรือตอนนี้มีปลาดาบเงิน ปลากระบอก และปลาทู (จากภาพ มุมไกลสุดบริเวณทะเลที่เส้นขอบฟ้า จะมีหอประภาคารสีขาวตั้งอยู่)
ขวากลาง - บริเวณที่น้ำจากทะเลในฝั่งอำเภอยะหริ่งและจากทะเลนอกฝั่งอ่าวไทยปะทะกันเป็นคลื่นบริเวณปลายแหลมตาชี
ซ้ายล่าง - ยังอยู่บริเวณแหลมเช่นเดิม แต่มองไปทางขวายังจุดเริ่มต้นของการเดินเท้า บริเวณนั้นมีแนวต้นสนขึ้นเป็นทางยาว
ขวาล่าง - ซากเรือผุพังและปล่อยทิ้งไว้บริเวณนี้ กลายเป็นสัญลักษณ์ของแหลมตาชีไปแล้ว ที่เข้ากับบรรยากาศก็คือ ข้อความข้างเรือ(ด้านที่หันมาทางภาพ)เขียนว่า"แสงแรกฟ้า... ที่แหลมตาชี"ขณะที่อีกด้านเขียนว่า"แสงลับฟ้า... ที่แหลมตาชี"
TODAY | THIS MONTH | TOTAL | |||
368 | 5305 | 297697 |