(สามารถคลิกอ่านคำอธิบายของกินของใช้ได้ที่"คำอธิบาย")
ถนนคนเดินหลาดใหญ่จัดขึ้นทุกเย็นวันอาทิตย์บนถนนถลางตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม
เริ่มจากซุ้มประตูบริเวณสี่แยกบนถนนถลางที่ตัดกับถนนเทพกระษัตรีและถนนภูเก็ต แล้วเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา ซึ่งตลอดถนนถลางมีข้าวของนับไม่ถ้วน สำหรับถนนคนเดินจะสิ้นสุดตรงสี่แยกที่ถนนถลางมาบรรจบกับถนนเยาวราชและถนนกระบี่ รวมระยะทางเกือบ 400 เมตร
เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา ถนนคนเดินโซนที่หนึ่งมีสองช่องทางคือซ้ายและขวา โดยแผงกลางถนนช่วงนี้ ถ้าเป็นของกินจะหันหน้าเข้าช่องทางเดินขวามือ แต่ถ้าเป็นของใช้และงานบริการจะหันหน้าเข้าทั้งสองช่อง
สำหรับไฮไลต์บนถนนถลางสายนี้คือ ตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีสทั้งสองฟาก แต่ละฝั่งต่างก็เปิดหน้าร้านขายของ แต่ถ้าบ้านไหนไม่เปิด ก็มีแผงลอยอยู่บนทางเดินเท้าใต้หลังคาช่องโค้งที่เรียกว่า“หง่อคาขี่”แทน
สำหรับข้าวของโซนแรก แผงกลางถนนที่หันหน้าเข้าทั้งสองฝั่งมีมุมเด็ก ภาพวาด โปสการ์ด ของเก่า ของชำร่วย เครื่องดื่ม งานบริการ ขนมปัง กระเป๋า ของเล่นเด็ก ของกินเล่น และชากาแฟ ส่วนสินค้าบริเวณอาคารและหง่อคาขี่ฝั่งซ้ายมีของชำร่วย แว่นตา เครื่องดื่ม เสื้อผ้าพื้นเมือง เครื่องดื่มแช่เย็น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โปสการ์ด งานแฮนด์เมด เครื่องสำอาง ของเล่นเด็ก รองเท้า เครื่องประดับสตรี หมวก และเสื้อผ้าชายทะเล ขณะที่อาคารและแผงใต้หง่อคาขี่ขวามือมีสินค้าแฟชั่น เปิดหมวก ของชำร่วย เครื่องประดับสตรี เครื่องดื่ม เสื้อที่ระลึกภูเก็ต และเสื้อผ้าชายหญิง
ถัดไปเป็นโซนที่สองและสาม แผงลอยกลางถนนจะแบ่งเป็นสองช่องทางเดินอย่างชัดเจน โดยเป็นแผงสองแถวหันหลังชนกัน แต่ละแผงหันหน้าแผงเข้าช่องทางเดินตนเอง ซึ่งแผงลอยโซนสองเป็นทรงเตี้ย ประเภทแผงลอยมีขาโต๊ะแผงลอย ราวแขวน ผ้าฟาง และโต๊ะเตี้ย ส่วนแผงลอยกลางถนนโซนที่สามก็เป็นสองแถวหันหลังชนกัน ประเภทแผงลอยคือโต๊ะพับเหล็กกับสแตนเลสและเคาน์เตอร์
สำหรับฝั่งตึกเก่าชิโน-โปรตุกีสและใต้หง่อคาขี่(ทั้งสองฟากของโซนสองและโซนสาม)ก็สินค้าจำหน่ายมากมายเช่นกัน
หนึ่งในกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงเมื่ออยู่บนเกาะภูเก็ตคือ ถนนคนเดินหลาดใหญ่ ทั้งคนไทยและต่างชาติต่างหลั่งไหลมาสร้างสีสันเย็นวันอาทิตย์กันอุ่นหนาฝาคั่ง แถมตึกรามบ้านช่องก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์อีก ไหนๆมาถึงถิ่นทั้งที ถ้าไม่หยิบจับข้าวของหรือหาอะไรลงท้อง เดี๋ยวโดนหาว่ามาไม่ถึงภูเก็ตแหงๆ
บน – นักท่องเที่ยวต่างชาติบริเวณหน้าซุ้มประตูกำลังเบียดตัวเข้าไปอย่างดุเดือดมาก แต่นั่นกลับเป็นนิมิตหมายอันดีว่า การสำรวจครั้งนี้ไม่กลับบ้านมือเปล่าแน่นอน
กลาง – เมื่อลอดซุ้มประตูเข้ามา ขอบอกเลยว่า ผู้คนอลเวงจริงๆเพราะช่วงแรกคือโซนกิจกรรมและงานบริการบนแผงเกาะกลางถนน แถมมีของกินของใช้ด้วย ส่วนอาคารชิโน-โปรตุกีสทั้งสองฝั่งก็มีทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคปะปนกัน แต่ถ้าบ้านไหนไม่เปิดหน้าร้าน แผงลอยก็เข้ามามีบทบาทที่หน้าบ้านนั้นแทน (จากภาพ เริ่มจากซ้ายมือ นักท่องเที่ยวอยู่ในช่องทางเดินฝั่งซ้าย ตามด้วยแสงไฟของแผงลอยกลางถนน แล้วจึงเป็นผู้คนในช่องทางเดินฝั่งขวา ทั้งนี้ ถ้าเป็นแผงของกินจะหันหน้าเข้าช่องทางเดินฝั่งขวา แต่ถ้าเป็นกิจกรรมและงานบริการจะหันหน้าเข้าทั้งสองฝั่ง)
- ไฮไลต์มีอะไรบ้าง ไปชมแผงกลางถนนทั้งสองฟากพร้อมๆกัน
ซ้ายบน - สาวจีนคนนี้ให้ช่างเพนต์ลงลายที่ข้อเท้าให้ วิธีการนี้เรียกว่า“บอดี้เพนต์” ลวดลายต่างๆอยู่ได้นาน 7 ถึง 10 วัน โดยหลังจากเลือกลายตามแคตตาล็อกแล้ว ก็ถึงเวลาที่ช่างจะใช้เครื่องมือลงลาย ขณะที่กลุ่มเพื่อนก็ห้อมล้อมเอาใจช่วยเป็นภาษาจีน ส่วนคนไทยก็ส่งแรงใจเชียร์
ขวาบน – ชาวต่างชาติและคนไทยให้การอุดหนุนช่างตัดผมไม่ว่างเว้น
ซ้ายล่าง - โต๊ะนี้บริการแกะสลักชื่อต่างๆบนแผ่นไม้ โดยมีอยู่สองวิธีคือ ฉลุเป็นตัวอักษรนูนจากเนื้อไม้หรือแกะตัวอักษรลึกลงไปในเนื้อไม้ ส่วนใครอยากได้เนื้อไม้เก่าหรือเนื้อไม้ใหม่ ก็บอกคนทำไปเลย แต่ถ้าอยากลงเปลวด้วย ราคาก็เพิ่มขึ้นอีก
ขวาล่าง – กลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ต่างขะมักเขม้นปั้นดินญี่ปุ่นให้เป็นเต่าอั่งกู๊ พร้อมระบายสีทับ
ตะลอนทัวร์ต่อ
ซ้ายบน – ลูกเด็กเล็กแดงจากโพ้นทะเลมะรุมมะตุ้มกับกิจกรรมวาดภาพอย่างหรรษา ส่วนพ่อแม่ก็คอยแนะแนวอยู่ข้างๆ
ขวาบน – เรามาดูหมวดรับจ้างวาดภาพบ้าง ซึ่งมีเยอะมาก ขอเริ่มที่พี่คนนี้ที่รับวาดภาพเหมือนจากแบบตัวจริง โดยมีเก้าอี้ให้ผู้ว่าจ้างนั่ง แล้ววาดกันตรงนั้นเลย
ซ้ายกลาง – นักวาดคนนี้ฝีมือไม่เบา เขาวาดภาพพอร์เทรตจากรูปถ่าย ถ้าเราลองพิจารณาสีหน้าจากผลงานที่โชว์ไว้ ทุกใบหน้ามีอารมณ์รักโลภโกรธหลงของมนุษย์อยู่ในภาพนั้นๆ ไม่ได้มีแค่หูตาคอจมูก
ขวากลางบน – นักวาดอีกคนใช้สีน้ำตวัดเป็นภาพวิถีชีวิตและธรรมชาติ ดูมีเรื่องราวดี
ซ้ายล่าง - น้องคนนี้ดึงพรสวรรค์ของตนเองออกมาจนหลายคนต้องเหลียวหลังหรือแม้แต่หยุดมอง เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ลำโพงสีขาว น้ำเปล่าหนึ่งขวด ไมโครโฟน ที่วางเงิน มือข้างหนึ่งสะบัดตามจังหวะ และเท้าอีกข้างเคาะตามทำนอง สิ่งที่เขาทำคือ"บีตบ๊อกซ์"ระดับที่ต้องยกนิ้วโป้งให้ ไม่แปลกใจที่หลายคนมองด้วยความทึ่งและให้เงินเป็นกำลังใจ
- ต่อไปเป็นโหมดของกินของใช้แล้ว
ขวากลางล่าง – ขนมอาโปงขายดีมาก คนขายสองคนช่วยกันเปิดปิดฝาแทบไม่ทัน
ขวาล่าง – มุมนี้มีเมนูนมปั่นมาฝาก รสชาติทั้งหมดมีนมสดสตรอว์เบอร์รี โกโก้นมสด โกโก้โอริโอ นมสดโอวัลติน นมสดไมโล นมสดโอริโอ นมสดแคนตาลูป นมสดฮอกไกโด นมสดคาราเมล นมสดไวต์มอลต์ นมสดปีโป้ นมสดชมพู และนมสดมินต์ ส่วนใครอยากเพิ่มวิปครีม ก็เสริมสตางค์อีกหน่อย
แค่โซนแรกก็สนุกเกินคาด
ซ้ายบน – ทีมงานเดินมาเจอซุ้มชากาแฟพอดี รายการเครื่องดื่มก็มีชาเย็น ชาเขียวใส่นม กาแฟโบราณ โกโก้ โอวัลติน นมเย็น ชาโกโก้ ชากาแฟ ชามะนาว ชาเขียวมะนาว น้ำแดงมะนาว น้ำเขียวมะนาว อิตาเลียนโซดา(รสชาติต่างๆเช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี กีวี่ แอปเปิล ฯลฯ) โอเลี้ยง และชาดำเย็น ขณะเดียวกัน ซุ้มนี้ยังมีขนมปังนึ่งร้อนๆด้วย โดยมีไส้สังขยาไข่ ฝอยทอง หมูหยองพริกเผา แยมสตรอว์เบอร์รี สังขยาใบเตย ช็อกโกแลต แยมบลูเบอร์รี และเนยน้ำตาล
ขวาบน – พ่อค้านำรถโฟล์กแวนสีเขียวมาจอดไว้กลางถนน จากนั้นก็นำโมเดลรถที่เข้ากับบรรยากาศมาวางจำหน่ายหน้ารถตู้ให้เด็กและนักสะสม
- ไปชมหน้าร้านตามอาคารชิโน-โปรตุกีสและแผงลอยใต้หง่อคาขี่ฝั่งซ้ายต่อ
ซ้ายกลางบน – แผงนี้จำหน่ายเสื้อผ้าของสาวๆสไตล์โบฮีเมียนและกระเป๋าสะพายเข้าชุด
ซ้ายกลางล่าง – ตลอดถนนถลางมีบ้านที่เปิดขายสินค้าที่ระลึกมากมาย เริ่มจากร้านนี้ที่มีถ้วยเซรามิกที่ระลึก ชุดมวยไทย เสื้อผ้าเด็ก รถตุ๊กตุ๊กประดับ เสื้อผ้าสตรี สบู่ หมวกสาน กระเป๋า พวงกุญแจ ผ้าพันคอ สร้อยคอ ตุ๊กตาผ้า พระพุทธรูปประดับ ช้างประดับ ร่ม ภาพแขวน และย่าม
- จากนั้นเป็นอาคารทางฝั่งขวาบ้าง
ขวากลาง – หลังนี้จำหน่ายหมี่ผัดฮกเกี้ยน
ซ้ายล่าง – สำหรับบ้าน"ร้อยเก้า"สามารถนั่งด้านในเพื่อกินข้าวหรือนั่งหน้าบ้านเพื่อจิบเครื่องดื่มเคล้าบรรยากาศก็ได้ โดยรายการกับข้าว เช่น หมูมะนาว ผัดน้ำพริกเผา(หมูหรือไก่) ปลาสามรส กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย ไก่ทอดซอสสลัด ผัดเครื่องแกงซีฟู้ด ลาบ(หมูหรือไก่) แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับ ยำวุ้นเส้นซีฟู้ด กุ้งอบวุ้นเส้น ฯลฯ เมนูจานเดียวก็เช่น ข้าวผัดสับปะรด ข้าวผัดเครื่องแกง ข้าวผัดแหนม สุกี้แห้งซีฟู้ด สปาเก็ตตีซอสมะเขือเทศ ผัดซีอิ๊ว ข้าวผัดใบกะเพรา ฯลฯ ขณะที่ตัวอย่างค็อกเทลและเครื่องดื่มอื่นๆมีไหมไทย CubaLibre บลูมาร์การิตา จินแอนด์โทนิก เตกีลา โมจิโตแคนตาลูป มาร์ตินี โมจิโตองุ่น อิตาเลียนโซดา โค้ก สไปรท์ ชเวปส์ คาปูชิโน มอกค่า เอสเพรสโซ น้ำผึ้งมะนาว โอวัลติน เก๊กฮวย น้ำผลไม้ปั่น(เช่น กล้วย มะนาว แตงโม ส้ม ฯลฯ) รวมทั้งเหล้าปั่น(พร้อมรสชาติเช่น มะนาว สตรอว์เบอร์รี บลูฮาวาย ส้ม สับปะรด องุ่น เสาวรส ฯลฯ)
ขวาล่าง – ร้านคาเฟ"CUB House Phuket"ตั้งอยู่ปากทางด้านขวาหน้าซุ้มประตูถนนคนเดิน รายการเครื่องดื่ม เช่น เอสเพรสโซ อเมริกาโน ลาเต้ คาปูชิโน มอกค่า ช็อกโกแลต มัจฉะลาเต้ น้ำอัดลม ชามะนาว Yuzu Bubbly ชาดำ กาแฟไนโตรโคลด์บรู ไนโตรชาไทยเลมอน Cubhouse Monkey ฯลฯ ของกินอื่นๆก็เช่น ไข่ลวกเสริฟกับขนมปังปิ้งพร้อมซอสแมกกี้พริกไทยดำ ขนมปังปิ้งทาครีมถั่วแระญี่ปุ่นโรยด้วยไข่ต้มสับและไส้กรอกหั่นและผักสลัดร็อกเก็ตมะเขือเทศ ฯลฯ ส่วนเบเกอรี่ในตู้กระจกมีดังนี้ เค้กเรดเวลเวต มัฟฟินดาร์กช็อกโกแลต เค้กคุกกี้แอนด์ครีม พายแอปเปิลผสมคัสตาร์ตวานิลลา เค้กพุดดิ้งนมสด พายครีมเลมอน เค้กช็อกโกแลต เค้กคาราเมลผสมมอกค่า มัฟฟินกล้วยผสมอัลมอนด์ ทาร์ตครีมเลมอน บราวนี่ เค้กช็อกโกแลตลาวา ครัวซองต์ช็อกโกแลต ครัวซองต์รสดั้งเดิม สลัดไส้กรอก ขนมปังจิ้มซอส ไส้กรอกกับซอสมายองเนสสไปซี ขนมปังกระเทียม และไส้กรอกซูเปอร์ด๊อก
ยังมีฝั่งอาคารอีกเล็กน้อย
ซ้ายบน – บ้านนี้ขายเสื้อผ้าสีพาสเทลของสาวๆและของตกแต่งแฮนด์เมดต่างๆ ชาวต่างชาติให้การตอบรับเยอะเลย ทั้งเดรสสายเดี่ยว เสื้อสายเดี่ยว เสื้อแขนยาว กระโปรง ย่าม หมวกแฟชั่น แหวนกระเป๋า ถุง สร้อย ของแขวนประดับบ้าน หมวกสาน ตะกร้า และของชำร่วยตั้งโชว์
- สำหรับโซนแรกก็จบตัวอย่างเพียงเท่านี้ แต่กิจกรรมยังไม่หมดทีเดียวเนื่องจากตลอดถนนคนเดินยังมีมุมร้องเพลงเป็นช่วงๆตั้งแต่ต้นถนนจนถึงท้ายถนน
ขวาบน – ทีมงานเห็นน้าคนนี้ทุกครั้งที่มา เขาร้องเพลงสากลยุคซิกตี้และเซเวนตี้ได้มันส์สุดติ่งและเสียงก็ได้ฟีลแนวนี้อยู่แล้ว ด้านหน้าเลยมีนักท่องเที่ยวนั่งฟังกันเพียบ
ซ้ายกลาง – ขณะที่เดินสำรวจ ถึงกับต้องหันขวับเพื่อดูต้นทางของเสียง ผู้หญิงเสื้อชมพูคนกลางคือเสียงสวรรค์จริงๆ ฟังแล้วเคลิ้มอยู่ในภวังค์เลย และเพลงที่ทำให้ทีมงานต้องยืนฟังจนจบก็คือ เพลง“ไม่เคย”ของวง 25 Hours
ขวากลาง – ยังมีศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ระหว่างโซนสองกับสาม ภายในมีโบรชัวร์แจกและกรอบประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆในภูเก็ตติดฝาผนังให้อ่านกัน เช่น ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข ซอยรมณีย์ อาคารเก่าบริเวณถนนพังงา โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว คฤหาสน์ของพระพิทักษ์ชินประชา ฯลฯ
กลาง – คราวนี้ก็เข้าสู่โซนของใช้แล้ว บรรยากาศคึกคักมาก แผงลอยเกาะกลางถนนแบ่งเป็นสองแถวหันหลังชนกัน แต่ละแถวหันหน้าแผงเข้าช่องทางเดินตนเอง สินค้าส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมด ส่วนหน้าร้านตามตึกและแผงลอยใต้หง่อคาขี่ก็เต็มเอี้ยด ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคลาคล่ำทั้งสองฟากไม่เปลี่ยน
- ทีมงานขอเริ่มแผงลอยเกาะกลางถนนฝั่งซ้ายมือก่อน
ซ้ายล่าง – ช่วงนี้ดีไซน์วินเทจกำลังมา สีซีเปียกับภาพในอดีตเท่ๆหลายอารมณ์บนแผ่นไม้จึงดูเป็นคำตอบที่ลงตัว ร้านนี้นำแผ่นไม้มาสกรีนเป็นภาพเก่า แล้วทำตัวแขวนไว้ด้านหลังสำหรับติดผนังพร้อม
ขวาล่าง – พี่คนนี้นำวัสดุสองอย่างมาขึ้นรูปเป็นสัตว์ต่างๆ นั่นคือ เชือกปอและผักตบ สัตว์ต่างๆก็มีมังกร ช้าง ยีราฟ กวาง ปู ม้า และเต่า
โซนสองมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ
ซ้ายบน - แผงนี้นำดอกแคสเปียสด(ที่เก็บจนแห้ง)มาใส่ขวดโหล ดอกไม้จึงคงสีสันอยู่ ไม่เหี่ยวแห้งไปตามกาลเวลา
ขวาบน – เจ้าของร้านเสื้อสีขาวกำลังถักโครเชต์อยู่หลังแผง เขาใช้เวลาว่างกับไหมพรมจนเกิดผลงานต่างๆดังนี้ ตุ๊กตา รองเท้าเด็ก หมวก และรองเท้าแตะ
ซ้ายกลางบน – มุมนี้นำสบู่สกัดเองจากธรรมชาติล้วนๆมาจำหน่าย ตัวอย่างก็มีสบู่นมแพะผสมมังคุด สบู่ชาร์โคล สบู่มะขาม สบู่กาแฟลาเต้ สบู่พริกไทยดำ สบู่วิสกี้ สบู่น้ำมันอโวคาโด สบู่ทานาคาผสมตะไคร้ สบู่นมแพะผสมน้ำผึ้ง รวมทั้งสารสกัดจากรังไหมชนิดผง โคลนแดง และถ้วยกะลามะพร้าววางสบู่
ขวากลาง – พี่คนนี้นำเส้นใยจากขวดพลาสติกขยะในทะเลห้าขวดมารีไซเคิลเป็นกระเป๋าปลาหนึ่งใบ ปลาทะเลเหล่านี้เลยกลายเป็นสินค้าที่มีความทรงจำขึ้นมาทันตา
ซ้ายกลางล่าง – เจ้านี้จำหน่ายเครื่องเงินทำมือทั้งหมด มีทั้งแหวน จี้ สายข้อมือ กำไล สร้อยคอ สร้อยข้อมือนำโชค สร้อยข้อเท้า และต่างหูให้เลือกครบ
ซ้ายล่าง – น้องผู้หญิงบรรจงตอกหนังวัวให้เป็นลวดลาย ก่อนจะลงสี ผลงานทั้งหมดมาจากตัวละครในรามเกียรติ์และนิทานพื้นบ้านของไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมภาคใต้นั่นคือ หนังตะลุง
ขวาล่าง – แม่ค้านำถ้วย จาน ชาม แจกัน และแก้ว(ซึ่งมีทั้งมือหนึ่งและมือสองจากญี่ปุ่น)มาจำหน่าย
เราไปฝั่งอาคารชิโน-โปรตุกีสบ้าง
ซ้ายบน – พ่อค้านำชุดทหารลายพรางมาแขวนจำหน่ายที่ประตูบ้านหลังหนึ่งเพื่อความโดดเด่น
ขวาบน - ผ้ามัดย้อมซุ้มนี้มีทั้งเดรส เสื้อยืด เสื้อสายเดี่ยว เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น และเสื้อโปโลมาขาย
ซ้ายกลางบน – ผ้าแดงปูใต้หง่อคาขี่หลังนี้มีรองเท้าแตะแบบหนีบและสวม รองเท้าส้นตึก รองเท้าบัลเลต์ และรองเท้าส้นสูง
ขวากลางบน – ห้องนี้มีชากาแฟและขนมให้นั่งกินชิลๆในร้าน เมนูต่างๆมีมอกค่า ลาเต้ คาปูชิโน อเมริกาโน เอสเพรสโซอัฟโฟกาโต โอเลี้ยง ช็อกโกแลต นมวานิลลา นมเย็น ชามะนาว นมคาราเมล ชานม ชาพีช ชาดำเย็น ชาเขียวมะนาว และชาเขียวลาเต้ ส่วนของกินเล่นมีเครปสายรุ้ง เครปชาเขียว เครปช็อกโกแลต บราวนี่ และคุกกี้ ขณะที่ใต้หง่อคาขี่มีกลุ่มสาวต่างชาติกำลังสนใจแผงเครื่องประดับสไตล์ยิปซี เช่น สร้อยคอ สายข้อมือ ต่างหู ฯลฯ
- ถัดมาก็เป็นฝั่งขวา เริ่มจากแผงเกาะกลางเช่นเคย
ซ้ายกลางล่าง – เสื้อยืดเจ้านี้ออกแบบลายการ์ตูนเองทั้งหมด มีทั้งไซส์เด็กและผู้ใหญ่
ขวากลางล่าง - แผงนี้จัดเต็มกับฟิกเกอร์การ์ตูนและมีบางส่วนจากภาพยนต์แอนิเมชั่นด้วย เช่น นารูโตะ วันพีช วินนี่เดอะพูห์ โปเกมอน มาส์กไรเดอร์ อุลตราแมน ลูนี่ตูนส์ สตาร์วอร์ส กันดั้ม ฯลฯ
ซ้ายล่าง – มุมนี้จำหน่ายตัวรีดติดเสื้อกับสติกเกอร์ลายน่ารักๆ
ขวาล่าง – เปลือกหอยประกอบร่างกับแก้วเป่าจนกลายเป็นสัตว์ทะเลที่สวยงาม
สอดส่องแผงเกาะกลางถนนต่อ
ซ้ายบน – งานแกะสลักไม้สักมีทั้งช้าง หนุมาน พระ ยักษ์ และเทพ (จากภาพ คนทำใช้สิ่วแกะเป็นรูปร่างอยู่ ส่วนคนซื้อสามารถบอกชื่อเพื่อสลักลงเนื้อไม้ได้ด้วย)
ขวาบน - พ่อค้าแม่ค้าช่วยกันขายรองเท้าแตะยางพารา
ซ้ายกลางบน – คนขายใช้เชือกพาราคอดมาถักเป็นสายข้อมือเองทั้งหมด เชือกแบบนี้เป็นเชือกของทหารและรับน้ำหนักได้ถึง 250 กิโลกรัม เราสามารถถอดเชือกเพื่อผูกกับเปลนอนได้อีก
ขวากลาง – งานแฮนด์เมดน้ำหนักเบาโดนน้ำได้เหล่านี้ทำมาจากกระดาษล้วนๆ โดยปั่นกระดาษก่อน แล้วทำเป็นตัว พอตากแห้งแล้ว ก็ลงสีสดใสด้วยพู่กัน สินค้ามีกระปุกออมสิน พวงกุญแจ ของประดับ ที่ใส่ทิชชู่ และแม็กเน็ต
ซ้ายกลางล่าง – เจ้านี้มีแผ่นป๊อบอัพจากสถานที่ทั่วโลก วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่พับเก็บ จะแบนเรียบ แต่ถ้ากางออก ภาพก็จะเด้งขึ้นมาเป็นสามมิติทันที และตัวอย่างภาพป๊อบอัพเหล่านี้มีหอนาฬิกาบิ๊กเบน ทัชมาฮาล ประตูชัยฝรั่งเศส รถ Motorwagen ของเบนซ์ พระที่นั่งโลหะปราสาท โบสถ์ไซง่อนนอร์เทรอดาม ประตูบรันเดินบวร์ก ฯลฯ
ซ้ายล่าง – ตกกลางคืนเมื่อไหร่ แผงนี้ฉุดสายตานักท่องเที่ยวทันที คนขายนำขวดเหล้าและเบียร์ยี่ห้อดังใส่หลอดไฟต่างๆไว้ด้านใน รูปทรงของขวดแก้วจึงสุกสกาวอย่างที่เห็น
ขวาล่าง – ตบท้ายด้วยซุ้มนี้ที่นำแผ่นสังกะสีมาดัดเป็นรูปทรงต่างๆ แล้วลงลายย้อนยุคสไตล์เท่ๆ
เก็บตกตึกเก่าชิโน-โปรตุกีสฝั่งขวากัน
ซ้ายบน – เสื้อยืดชายอยู่มุมนี้
ขวาบน – กลุ่มสินค้าจากญี่ปุ่นวางให้เลือกเยอะแยะ เช่น หมอนรองคอ กล่องใส่ยา กระเป๋า ช้อนส้อม ถุงเก็บอุณหภูมิ ผ้าปิดตานอน ตุ๊กตา กระเป๋าใส่ดินสอ แก้วเก็บความเย็น ทับเบิลแวร์ หวี ฯลฯ
ซ้ายกลาง – พ่อค้าแผงนี้จำหน่ายเคสมือถือและรับติดฟิล์ม
ขวากลาง – หอยครกซีฟู้ดมุมนี้มีแต่กุ้ง หมึก และหอยตัวโตๆทั้งนั้น
ซ้ายล่าง – น้ำผลไม้ปั่นก็เห็นอยู่หลายเจ้า อย่างเจ้านี้มีส้ม มะเขือเทศ แอปเปิล สับปะรด มะม่วง มะนาว แตงโม เสาวรส กล้วย เบอร์รี่ มะพร้าว และโยเกิร์ต
ขวาล่าง – และซุ้มนี้จำหน่ายอาหารตามสั่งแบบเป็นกับหรือจานเดียว ชาวต่างชาติตกปากรับคำดีเลย อาหารก็มีข้าวผัด(หมู ไก่ กุ้ง หรือซีฟู้ด) ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว ผัดผัก แกงเขียวหวาน ก๋วยเตี๋ยว เครื่องแกงต้มยำกุ้งหรือทะเล ข้าวราด(หมูหรือไก่)ทอดกระเทียม สุกี้(แห้งหรือน้ำ) ข้าวราดกะเพราหมูหรือไก่ และราดหน้า ส่วนเครื่องดื่มก็เช่น กาแฟเย็น ชาเย็น น้ำมะพร้าวเป็นลูก น้ำอัดลม ฯลฯ
ล่าง – แล้วเราก็ตะลุยมาถึงอาณาจักรความโอชะของโซนที่สาม แผงเกาะกลางถนนหอมฟุ้งไปด้วยสำรับคาวหวาน ขณะที่อาคารชิโน-โปรตุกีสทั้งสองฝั่งก็เปิดหน้าร้านจำหน่ายสินค้าครบครัน ส่วนหลังไหนปิดบ้าน แผงลอยก็เข้ามาแชร์พื้นที่ใต้หง่อคาขี่ดังเดิม ขณะที่เสียงซาวด์แทรกยังเซ็นเซอร์ราวด์ไปทั่ว (จากภาพ มุมที่ทีมงานยืนอยู่คือปลายทางของถนนคนเดิน แล้วหันหลังกลับไปมองโซนอาหารอีกครั้ง แต่ถ้าเริ่มเดินจากซุ้มประตูเข้ามา ขวามือของภาพนี้ก็คือ ซ้ายมือที่จะเริ่มอธิบายก่อน ส่วนทางซ้ายของภาพก็คือขวามือที่ทีมงานจะเก็บไว้ปิดจ๊อบ)
เตรียมตื่นตากับแผงลอยกลางถนนที่หันเข้าทางซ้าย ณ บัดนี้
ซ้ายบน – ขาหมูพร้อมคะน้าฉ่ำๆเซ็ตนี้กำลังร้อนได้ที่เลย
ขวาบน – เจ้านี้มีถาดข้าวผัดปูแบบโชว์เนื้อปูเต็มๆ ส่วนหม้อถัดไปก็คือ โจ๊กซีฟู้ด
ซ้ายกลางบน – มุมนี้คือ หมี่หุ้นกระดูกหมู
ขวากลาง – พ่อค้าและแม่ค้าช่วยกันยำมะม่วงสารพัดรสชาติ เริ่มตั้งแต่ยำมะม่วงใส่กุ้งสด ยำมะม่วงใส่ปูจืด ยำมะม่วงใส่ปลากรอบ ยำมะม่วงใส่ปูม้า ยำมะม่วงใส่หอยนางรม ยำมะม่วงใส่หอยแครง ยำมะม่วงใส่หอยแมลงภู่ ยำมะม่วงใส่แมงกะพรุน ยำมะม่วงใส่ไข่แมงดา ไปจนถึงยำมะม่วงรสดั้งเดิม
ซ้ายกลางล่าง – แผงนี้มีน้ำพริกสารพัดมาให้ชั่งเป็นขีด เช่น น้ำพริกแมงดา น้ำพริกนรก น้ำพริกกะปิ น้ำพริกชุบหยำ น้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาร้า ฯลฯ ทั้งนี้ยังมีปลาทูทอด ผักลวกต่างๆ(เช่น ถั่วพู กระเจี๊ยบเขียว เห็ดนางฟ้า แคร์รอด บร็อกโคลี ถั่วฝักยาว กะหล่ำดอก มะระขี้นก ข้าวโพดอ่อน ดอกแค ฯลฯ) ปลีกล้วย หน่อไม้ ไข่ชะอมทอด และมะเขือยาวชุบไข่ทอด
ซ้ายล่าง – สิ่งนี้คือ จักจั่นทะเลชุบแป้งทอด(พร้อมน้ำจิ้ม)
ขวาล่าง – สำหรับโต๊ะนี้ เริ่มจากกล่องขวาสุดคือ โลบะ ถัดเข้ามาคือ เกี้ยนทอด และกล่องซ้ายสุด(ที่ทางร้านม้วนกันสดๆบนแผง)ก็คือ ปอเปี๊ยะสดที่มีไส้กุ้งและไส้หมู
เห็นของกินทีไร ปุ่มรับรสใต้ลิ้นทำงานทุกที
ซ้ายบน – ไม้ร้อนๆทั้งสี่เมนูก็มีเนื้อวัวโคขุนพริกไทยดำ เบคอนพันไส้กรอก บาร์บีคิวไก่ และบาร์บีคิวหมู
ขวาบน – ลูกชุบเจ้านี้ถูกอกถูกใจชาวต่างชาติมากเนื่องจากหน้าตาเฉิดฉายมาแต่ไกล
ซ้ายกลางบน - ขนมไทยวันนี้มีเปียกปูนกาบมะพร้าว เปียกปูนใบเตย ขนมมัน ขนมฟักทอง บ้าบิ่น ข้าวเหนียวตัด ขนมกล้วย ขนมต้ม ถั่วแปบ หม้อแกงไข่ หม้อแกงถั่ว วุ้นกะทิ เปียกปูนกะทิสด และตะโก้ ที่ฉีกออกไปคือ กุยช่าย
ขวากลางบน – โอ๋เอ๋วเป็นขนมวุ้นใสของชาวภูเก็ต ใส่เฉาก๊วยกับถั่วแดง ราดน้ำเชื่อม โปะด้วยน้ำแข็ง แล้วเหยาะน้ำแดงปิดท้าย
- ทีมงานขอสำรวจฝั่งอาคารเก่าบ้าง
ซ้ายกลางล่าง – ใครต้องการจิบเครื่องดื่มพร้อมเสวนาในบรรยากาศคลาสสิก ร้าน Coffee Station มีเมนูดังนี้ หมวดแอลกอฮอล์มีเบียร์ภูเก็ต เบียร์ลาว เบียร์ช้าง เบียร์สิงห์ เบียร์ลีโอ เบียร์ไฮเนเกน ไวน์แดง ไวน์ขาว โซดา โค้ก สไปรท์ แฟนต้า และชเวปส์ หมวดน้ำปั่น เช่น แคร์รอตผสมส้ม มะพร้าว มะนาว เสาวรส ลิ้นจี่ กล้วย ฯลฯ หมวดกาแฟก็เช่น เอสเพรสโซ อเมริกาโน ลาเต้ คาปูชิโน มอกค่า โอเลี้ยง CaffeLatte ViennaCoffee ฯลฯ หมวดชาก็เช่น ชาDarjeeling ชาดำPeachCeylong ชาEarlgrey ชามะนาว ชาเขียว ฯลฯ ซอฟต์ดริงก์ก็เช่น โอวัลติน นมปั่นโอริโอ นมสดคาราเมล ฯลฯ ส่วนอิตาเลียนโซดาก็เช่น ลิ้นจี่ พีช พลัม มิกซ์เบอร์รี ฯลฯ เครื่องดื่มในตู้เย็นมีแฟนต้า เซเวนอัพ โค้ก สไปรท์ และน้ำดื่มเนสต์เล ส่วนเบเกอรี่มีเค้กFrenchApple เค้กช็อกโกแลต บานอฟฟี และเครปมะม่วง
ขวากลางล่าง – ตัวอย่างอาหารและเครื่องดื่มท่ามกลางกลิ่นอายความเป็นจีนราวกับโรงเตี๊ยมของร้าน"ไชน่าอินน์"ก็มีหมูฮ้อง แกงแดงปูนิ่ม ยำส้มโอกุ้งสด ซีฟู้ดชุบแป้งทอด หมี่ผัดฮกเกี้ยนซีฟู้ด ข้าวเสริฟกับปลาทอดน้ำจิ้มมะขามแบบภูเก็ตดั้งเดิม ปีกไก่สอดไส้หมูสับและวุ้นเส้น หมี่สั่วหมูสันสไตล์ภูเก็ต เกี๊ยวน้ำกุ้ง แกงแตงกุ้งใส่สับปะรดภูเก็ต ปลาทอดพร้อมซอสมะขาม หมี่ผัดฮกเกี้ยนซีฟู้ด ข้าวราดผัดกะปิถั่วฝักยาวใส่กุ้ง ข้าวผัดน้ำพริกกะปิพร้อมปลาทู สลัดเป็ดย่างกับมะม่วงสุก สปาเก็ตตีพะแนงไก่ ต้มยำเห็ด ข้าวราดไก่ผัดขิง ข้าวราดปลาผัดขึ้นฉ่าย ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิกับมะม่วงสุก น้ำสับปะรดบวกมะนาวและใบสาระแหน่ น้ำขิงบวกมะนาวและตะไคร้ น้ำสตรอว์เบอร์รีบวกแอปเปิลแดงและทับทิม น้ำแตงโม น้ำแคร์รอต ฯลฯ
ซ้ายล่าง – ห้องนี้เปิดหน้าร้านจำหน่ายผ้าปาเต๊ะแบบผืนและแบบโสร่งตัดเย็บเรียบร้อย ผ้าลูกไม้อินโดแบบผืน และชุดอินโดแบบเข้ารูปให้เลือก
ขวาล่าง – ร้านสินค้าที่ระลึกหลังนี้มีเสื้อที่ระลึกภูเก็ต หมวกแฟชั่น ชุดผ้าพลิ้วเดินทะเล โปสการ์ด แม็กเน็ต พวงกุญแจ รองเท้าแตะ ดินสอ ช้างไม้ประดับ หมอน ชามกะลา และของชำร่วย
ยังเหลือแผงลอยใต้หง่อคาขี่อีกสองแผง
ซ้ายบน – เสื้อผ้าเที่ยวนอกบ้านของสาวๆมีเสื้อสายเดี่ยว เสื้อเอวลอย และกางเกงพลิ้ว
ขวาบน – แผงนี้มีหมวกแก๊ป หมวกบักเก็ต หมวกผ้าร่ม และหมวกกำมะหยี่ให้ลูกค้าตัดสินใจ
- ต่อไปก็เป็นแผงเกาะกลางที่หันหน้าเข้าช่องทางเดินขวามือ
ซ้ายกลาง – อาหารของแม่ค้าสามารถใส่ถุงกลับบ้านหรือใส่ถ้วยไปกินต่อก็ได้ ทั้งหมดมีแกงไก่บ้าน แกงเป็ด แกงคั่วหอยขม ต้มจืด ต้มผักกาดดอง แกงเนื้อ ผัดตับไก่ ปลาสามรส แกงไก่ใส่หน่อไม้ ผัดเผ็ดปลาดุก แกงไข่พะโล้ ไข่เจียวยัดเนื้อไก่ ต้มข่าไก่ ผัดหน่อไม้ ปลาตะมะทรงเครื่อง และผัดเผ็ดไก่
ขวากลางบน – กลิ่นซี่โครงหมูย่างเย้ายวนใจจริงๆ
ขวากลางล่าง – ทะเลเผามาถึงที่แล้ว แกนนำคือกุ้งมังกร โดยมีหอยแมลงภู่และหอยเชลล์เป็นแดนหลัง
ซ้ายล่าง – ที่เห็นอยู่ในกระทะคือ โอวต้าว
ขวาล่าง – เจ้านี้จำหน่ายข้าวหมกไก่และไก่ทอด
ปลายทางถนนคนเดินเห็นอยู่รำไร ไม่อยากให้ภารกิจลงเอยเลย
ซ้ายบน – ในกล่องต่างๆมียำขนมจีนปลาทูใส่ไข่ ยำขนมจีนปลาทูใส่ข้าวโพด ยำขนมจีนกุ้งสด ยำขนมจีนกุ้งลวก ยำขนมจีนกุ้งลวกใส่หอยแครง ยำข้าวโพดกุ้งสดใส่หอยแครง และยำข้าวโพดกุ้งสด
ขวาบน – ขนมโตเกียวร้านนี้มีรสชาติดังนี้ ไส้กรอกไก่ ไส้กรอกไก่พริก ปูอัด ฝอยทอง สังขยาไข่ สังขยาใบเตย ครีมขาว วานิลลา ปูอัดน้ำพริกเผา ทองหยอด หมูหยองน้ำพริกเผา ไส้กรอกไก่ใส่ชีส และกล้วยหอม รวมทั้งแพนเค้กกลิ่นวานิลลา
ซ้ายกลางบน – มุมนี้มีไอศกรีมกะทิตักใส่กะลามะพร้าวพร้อมเนื้อมาดับร้อน ส่วนตัวช่วยมีมันเชื่อม วุ้นมะพร้าว ถั่วคั่ว ลูกชิด และข้าวโพด
- เข้าสู่ฝั่งอาคารเก่าแล้ว
ขวากลางบน – ใต้หง่อคาขี่หลังหนึ่งมีเชฟนำเค้กรสอินเทรนด์มานำเสนอ เริ่มจากบานอฟฟี(เช่น กล้วยหอมช็อกโกแลต อัลมอนด์ช็อกโกแลต บลูเบอร์รีโยเกิร์ต ฯลฯ) เครปโรล(เช่น กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี มะพร้าวอ่อน ฯลฯ) ช็อกโกแลตฟัดจ์ ช็อกโกแลตหน้านิ่ม บราวนี่ ไปจนถึงเค้กเครปสายรุ้ง
ซ้ายกลางล่าง – ร้าน"Bookhemian"มีเอกลักษณ์ของหนังสือที่จำหน่ายบนชั้นวางติดผนัง แต่จุดขายอยู่ตรงกาแฟตามรายการนี้ เอสเพรสโซ ดับเบิลเอสเพรสโซ อเมริกาโน เอสเพรสโซมักคิอาโต พิกโคโลลาเต้ แฟลตไวต์ โบว์ลลาเต้ คาปูชิโน มอกค่า คาราเมลมักคิอาโต และช็อกโกแลต ส่วนของกินเล่นมีเค้กกล้วยหอม เค้กกล้วยผสมแครนเบอร์รีใส่งาขี้ม่อน คัสตาร์ดชีสเค้ก บราวนี่ และครัวซองต์
ขวากลางล่าง – "THALANG#31"เน้นเครื่องดื่มให้นั่งย้อมใจไปกับบรรยากาศคูลๆ หมวดกาแฟมีอเมริกาโน คาปูชิโน ลาเต้ มอกค่า เอสเพรสโซ และเอสเพรสโซอราบิกาใส่น้ำสับปะรดภูเก็ต ต่อด้วยโมจิโตสับปะรดภูเก็ต(แบบเวอร์จิ้น)และโมจิโตสับปะรดภูเก็ต(แบบค็อกเทล) ยังมีน้ำผลไม้ปั่น เช่น สับปะรดภูเก็ต มะม่วง สตรอว์เบอร์รี ลิ้นจี่ เสาวรส มะพร้าว ฯลฯ เครื่องดื่มอื่นๆมีเหล้า เบียร์ ชาเขียว ชามะนาว และน้ำอัดลม รวมทั้งสับปะรดภูเก็ตคั้นหวานเย็น(หรือป๊อปซิเคิล) ปิดท้ายด้วยของกินเล่น เช่น กะหรี่ปั๊บหมูฮ้อง โรตีมัสมั่นไก่ ขนมปังสังขยาออร์แกนิก ฯลฯ
ซ้ายล่าง – ลุงและป้านั่งขายของกินเล่นอยู่หน้าร้านตามลิสต์นี้ บั้นเจี้ยนโก้ย ก้องถึง ขนมพริก หม่อหลาว ผ่างเปี๊ยะ บี้พ้าง กล้วยหอมทองอบกรอบ แกนสับปะรดอบแห้ง มะม่วงสุกอบแห้ง ทุเรียนทอดกรอบ ขนุนทอดกรอบ มังคุดอบกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์รสมะพร้าว ทอฟฟี่นม(รสมะพร้าวและรสทุเรียน) มะละกออบแห้ง หมี่โคราช ทอฟฟี่นมรสมะม่วง ส้มชิ้นอบแห้ง มะพร้าวอบกรอบ ป๊อกกี้ Pretz โคอะลามาร์ช พริงเกิล์ส เบนโตะ ช็อกโกพาย เถ้าแก่น้อยBigBag ลูกอมเคี้ยวนุ่มกลิ่นผลไม้(รสมะพร้าว มะม่วง ทุเรียน และมังคุด) กาแฟ ฝรั่งอบแห้ง ชาตรามือ ไวไวควิก และไอศกรีม Ete
ขวาล่าง – บ้านหลังนี้ทำเป็นทางเดินลึกเข้าไป ตัวอย่างสินค้าจิปาถะตลอดทางก็มีตุ๊กตาช้าง หมอน กระเป๋า ผ้าพันคอ บิกินี่ จานรอง เสื้อที่ระลึกภูเก็ต ถุงกันน้ำ เสื้อผู้หญิงแขนกุด ถ้วย แก้ว เสื้อยืดชาย สบู่ พวงกุญแจ ที่คาดผม เครื่องเงิน และหมวก
TODAY | THIS MONTH | TOTAL | |||
218 | 5155 | 297547 |